กรรมติดจรวด! โจรขโมยรถเจ้าอาวาสซิ่งตกสะพาน เครื่องไทยธรรมกระจายเกลื่อน

อุบลราชธานี - คนร้ายฉวยโอกาสขโมยรถยนต์เก๋งของเจ้าอาวาสที่จอดในวัดกลางดึก แต่ไปไม่รอดขับตกสะพานไม้ข้ามลำห้วยหงายท้องชี้ฟ้า คาดเป็นคนที่เคยมาป้วนเปี้ยนในวัดมาก่อน และต้องการขับรถกลับบ้านเพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางสายในคนไม่รู้จักไปไม่ได้…เหตุเกิดที่วัดบ้านแค ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ


เช้าวันนี้ (12 พ.ย.) พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากหลวงปู่สาคร สคโล (สะคะโล) อายุ 83 พรรษา เจ้าอาวาสวัดบ้านแค ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ มีคนร้ายเข้ามาขโมยรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่า ทะเบียน กญ 1469 อุบลราชธานี อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งจอดอยู่หน้ากุฏิขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกเวลาประมาณ 21.00-22.00 น.ของคืนที่ผ่านมา

จากการสอบถามหลวงปู่สาครเล่าว่า ตนได้เข้าจำวัดตั้งแต่หัวค่ำ เมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าพบว่ารถคันดังกล่าวได้หายไป และชาวบ้านได้มาบอกเมื่อช่วงเวลาหัวค่ำได้ยินเสียงรถแล่นผ่านบ้านพักออกไปจากหมู่บ้าน เหตุเนื่องจากรถคันดังกล่าวท่อไอเสียแตก จะได้ยินเสียงแต่ไกล

แต่ระหว่างคนร้ายเข้ามาขโมยตนไม่ได้ยินเพราะหูไม่ดี และรถคันดังกล่าวก็ไม่ได้ล็อกประตู รวมทั้งเอากุญแจอะไรไขก็สามารถติดเครื่องยนต์ได้เลย


ต่อมาช่วงสายเวลาประมาณ 11.30 น. พ.ต.ท.นพดลได้รับแจ้งจากชาวบ้านโคกก่อง หมู่ 11 ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี พบรถคันดังกล่าวตกจากสะพานไม้ลงไปในลำห้วยข้าวสาร ซึ่งเป็นเส้นทางไปยังบ้านหนองสีมาเหนือ หมู่ 8 ต.นาดี อ.นาเยีย จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ

พบรถตกลงในน้ำลักษณะหงายท้องชี้ฟ้า ประตูด้านคนขับถูกเปิดออก และไม่มีใครอยู่ในรถ มีเพียงเครื่องไทยธรรมของพระกระจายเกลื่อนออกมานอกรถ

จึงคาดว่าหลังคนร้ายที่รู้พฤติกรรมของรถได้เข้ามาขโมยรถของหลวงปู่สาครออกไปจากวัด จากนั้นได้ขับมุ่งหน้าไปตามถนนเลี่ยงเมือง ก่อนวกเข้ามายังถนนตามหมู่บ้านที่มุ่งหน้าไปอำเภอนาเยีย แต่เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุในช่วงกลางดึก มีแสงส่องสว่างไม่เพียงพอ


เมื่อนำรถแล่นขึ้นบนสะพานไม้ ทำให้รถเอียงตะแคงก่อนตกจากสะพานลงไปในน้ำในช่วงต้นของสะพานที่มีน้ำไม่ลึกมาก คนร้ายจึงตะเกียกตะกายออกจากรถก่อนขึ้นฝั่งหลบหนีไป

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคนเคยเข้าไปป้วนเปี้ยนในวัดเกิดเหตุมาก่อนก่อเหตุ โดยต้องการรถขับกลับไปยังภูมิลำเนาของตนเอง เพราะเส้นทางที่พบรถเป็นถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน หากไม่ทราบเส้นทางจะไม่สามารถไปได้

ส่วนวัดที่เกิดเหตุก็ไม่มีกล้องวงจรปิดจับความเคลื่อนไหวใดๆ แต่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อม เพื่อติดตามจับตัวคนร้ายที่เข้าไปขโมยรถของหลวงปู่สาครมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป