ลพบุรี - บรรยากาศการสมัครนายก อบจ.ลพบุรี และสมาชิก ในวันที่ 4 กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังอดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย นำกลุ่มร่วมพลังลพบุรี มีอดีตนายพล นำทีมลงสมัคร ชนอีก 2 กลุ่มที่สมัครไปแล้ว
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่หอประชุมอำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ลพบุรี ในวันนี้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีอดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และอดีตนายก อบจ.ได้นำ พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ นำกลุ่มร่วมพลังลพบุรี สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ลพบุรี พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกอีก 30 เขต ซึ่งทำให้ในการสมัคร เลือกตั้ง อบจ.ลพบุรีในครั้งนี้มีกลุ่มผู้สมัคร ถึง 3 กลุ่ม แต่ยังเหลืออีก 1 วัน ซึ่งตั้งแต่วันที่เปิดทำการรับสมัครในวันแรกจนถึงวันนี้ มีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวน 5 คน และสมาชิก จำนวน 150 คน
ประกอบไปด้วย พรรคก้าวไกล ภายใต้การนำของนายฤทธิ์ พัวพันธ์ ผู้ลงสมัครนายก อบจ.ลพบุรี ในนามกลุ่มลพบุรีก้าวไกล โดยการสนับสนุนจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ต้องการทำงานของคนรุ่นใหม่ และกลุ่มรักลพบุรี ที่นำโดย นางอรพิณ จิระพันธุ์วาณิช อดีตนายก อบจ.ลพบุรี นำทีมผู้ลงสมัครครบทั้ง 30 เขต ซึ่งผู้สมัครส่วนใหญ่เป็น ส.อบจ.เดิม โดยชูนโยบาย สานงานเก่า สร้างงานใหม่
ล่าสุด วันนี้ พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ มาลงสมัครนายก อบจ.พร้อมนำลูกทีมลงสมัคร ส.อบจ.ครบทั้ง 30 เขต ในนามของกลุ่มรวมพลังลพบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มของพรรคเพื่อไทย ชู 3 นโยบาย คิดใหม่ ทำใหม่ 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง รวมพลังชาวลพบุรี และทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาลพบุรี การจัดทำผังเมืองที่ดี และการจัดการทำแผนพัฒนาจังหวัดลพบุรีให้ดีที่สุด และยังมีผู้สมัครอิสระในตำแหน่งนายก อบจ.ลพบุรี อีก 2 คน ประกอบด้วย น.ส.ศรีรัตน์ ฤกษ์พิชัย และนายสรรเสริญ ประเสริฐสุข
อย่างไรก็ตาม ยังเหลือวันรับสมัครอีก 1 วัน ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนว่าจะมีผู้มาสมัครเพิ่มอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ทาง จ.ส.อ.บำรุง วงษ์ภูมิ รักษาการปลัด อบจ.ลพบุรี ในฐานะ ผอ.การรับสมัคร อบจ.ในครั้งนี้ ได้ดูแลการรับสมัครอย่างเคร่งครัด ทั้งการอำนวยความสะดวก และการดูแลรักษาความปลอดภัย
ด้าน นายสินาทร โอเอี่ยม นายอำเภอเมืองลพบุรี ในฐานะฝ่ายปกครอง กล่าวถึงการกำชับและดูแลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขต อ.เมืองลพบุรี ที่มีเขตเลือกตั้งถึง 10 เขต ว่า ในส่วนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทราบดีอยู่แล้วว่า ควรจะปฏิบัติตนอย่างไรกับการเลือกตั้ง เพราะระเบียบปฏิบัติมีอยู่แล้ว ส่วนจะสนับสนุนใครนั้นมีอยู่ในใจกันอยู่แล้ว และในขณะนี้ยังไม่มีการรับรายงานว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตที่ตนเองรับผิดชอบมีการทำผิดในเรื่องนี้แต่อย่างใด