ลำปาง - ชาวแม่เมาะรุมทวงสัญญาย้ายบ้านหนีโรงไฟฟ้า กฟผ. เผยเรียกร้องมา 10 กว่าปี ตายกันไปกว่าครึ่งร้อย กระทั่งศาลสั่งแล้ว-ครม.มีมติชัด แถมยอมรับแทบทุกเงื่อนไข แต่ยังไม่ได้ย้าย
วันนี้ (4 พ.ย.) นายชัยชนะ วงศ์ศรีจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, นายเนตร เมืองเย็น และผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านสวนป่าแม่เมาะ หนึ่งใน 4 หมู่บ้านของ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่อยู่ในรัศมี 5 กม.จากโรงไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ ต่างบอกว่ารอการอพยพออกจากหมู่บ้านเดิมมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ออกมาต่อสู้เรียกร้องกันมาตั้งแต่ปี 2552
แม้ศาลปกครองเชียงใหม่สั่งให้ กฟผ.อพยพชาวบ้านในรัศมี 5 กิโลเมตรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ออกนอกพื้นที่ และ ครม.มีมติให้ดำเนินการอพยพตั้งแต่ปี 2556
แต่จนถึงวันนี้ชาวบ้านก็ยังคงอยู่ที่เดิม และยังต้องทนฟังเสียงสายพานลำเลียงดิน เสียงรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่วิ่งเข้าออกและเททิ้งดิน กลิ่นกำมะถัน ฝุ่นจากการทิ้งดินแล้วถูกกระแสลมพัดมาที่บ้านเช่นเดิม เนื่องจากจุดที่ กฟผ.นำดินที่ขุดจากบ่อเหมืองมาทิ้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียง 1 กิโลเมตรเศษเท่านั้น
นายชัยชนะบอกว่า ที่ผ่านมาหมู่บ้านตนไม่มีปัญหาเหมือนหมู่บ้านอื่น ชาวบ้านต้องการย้ายออกจากหมู่บ้านเพราะได้รับผลกระทบจริงๆ ชาวบ้านยอมรับตามเงื่อนไขที่ทางราชการปรับเปลี่ยนทุกอย่าง แม้แต่เรื่องการปรับลดที่ดินที่จะได้รับตามมติ ครม. จากเดิมที่ทุกครอบครัวที่อพยพจะได้รับที่ดิน 3 ไร่ ก็ถูกลดลงเหลือ 2 ไร่ เหลือ 1 ไร่ และล่าสุดเหลือเพียง 181 ตารางวา และบางคนได้รับเงินเยียวยาไม่ถึง 7 หมื่นบาท ซึ่งแทบทำอะไรไม่ได้
แต่ชาวบ้านก็ยอม เพียงเพราะต้องการอพยพออกจากที่ที่มีปัญหา แต่สุดท้ายเมื่อมีการเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และยังไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.และมีการสั่งรื้อมติเดิมๆ ทิ้งทั้งหมด ซึ่งต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่อีก จนชาวบ้านที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ มะเร็งปอด และอื่นๆ เสียชีวิตไปหลายราย ล่าสุดเพิ่งเผาเป็นรายที่ 65 แล้ว
นายเนตร เมืองเย็น บอกว่า ขณะนี้พื้นที่อพยพมีการก่อสร้างสาธารณูปโภคไปบางส่วนแล้ว เช่น ประปา โรงเรียน ตลาด แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วน เช่น การวางท่อ ยังไม่เสร็จและล่าช้ามาก เนื่องจากความบกพร่องในการจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐเอง พื้นที่ที่ถูกจัดสรรไว้ขณะนี้เริ่มมีหญ้าต้นไม้ขึ้นปกคลุม ซึ่งชาวบ้านก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ย้ายเข้าไปก่อสร้างบ้านได้เมื่อไหร่ เพราะผู้บริหารระดับจังหวัดยังไม่มีความชัดเจน และยังยื้อเวลาออกไปแบบไม่มีกำหนด
ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามทำตามข้อเรียกร้องของผู้บริหารระดับจังหวัด ซึ่งล่าสุดที่กังวลเรื่องป่าสงวนฯ ชาวบ้านก็เร่งแยกส่วนที่มีปัญหาให้เรียบร้อย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม หรือ 4 ตะกร้า และรอให้มีการประชุมตามที่ผู้ตรวจราชการฯ บอกว่าขอให้คณะกรรมการฯ ประชุมทุกเดือนเพื่อรายงานความคืบหน้า แต่สุดท้ายเมื่อชาวบ้านทำเสร็จ เดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ไม่มีการประชุม เลื่อนออกไปอีก เพราะผู้ว่าฯ ไม่พร้อม
“ชาวบ้านได้ร้องขอให้ผู้ว่าฯ ลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมการการอพยพ เพื่อให้ผู้ที่กล้าตัดสินใจมานั่งในตำแหน่งแทน เพื่องานจะได้เดินได้ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบ”
ลุงแก้ว ชาวบ้านสวนป่าแม่เมาะ วัย 73 ปี บอกว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านได้รับผลกระทบจริงๆ เนื่องจากหมู่บ้านอยู่ห่างที่ทิ้งดินเพียงกิโลเมตรกว่าๆ ขณะนี้ก็ได้รับผลกระทบเรื่องเสียง แรงสั่นสะเทือนเวลาสายพานลำเลียงดินและรถบรรทุกยักษ์ขนดิน ช่วงนี้ยังโชคดีที่มีฝนตกจึงไม่ค่อยมีฝุ่น แต่หน้าแล้งที่จะมาถึงฝุ่นก็จะมาอีกเหมือนทุกปี จนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้กันตลอด อยากวอนให้ผู้ใหญ่ได้เร่งตัดสินใจย้ายชาวบ้านออกไปอยู่ในที่ใหม่โดยเร็ว เพราะยังอยากมีชีวิตในที่อยู่ใหม่