นครพนม - คุมตัวพ่อลูกอ่อนวัย 29 ปียิงคู่อริดับคาที่ 2 ศพ เจ็บสาหัสอีก 1 ทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ สารภาพโมโหจัดขณะเดินผ่านถูกตะโกนด่า ยกนิ้วกลางแจกของลับกลางงานลอยกระทงอำเภอบ้านแพง เผยทั้งสองฝ่ายมีบ้านพักติดกัน ฝ่ายผู้ตายมักส่งเสียงดังทำให้รำคาญจนทะเลาะกันเป็นประจำ จนถึงจุดแตกหักต้องใช้ปืนแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (1 พ.ย.) พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.บ้านแพง จ.นครพนม พร้อมชุดสืบสวน นำตัวนายดอน อริยะกาญจน์ อายุ 29 ปี พ่อค้าขายลูกชิ้น ผู้ต้องหาคดีก่อเหตุยิง 2 ศพในงานประเพณีลอยกระทง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ไปชี้จุดเกิดเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสนามกีฬาสวนสาธารณะหลังเทศบาลตำบลบ้านแพง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาเดินกลับมาจากเที่ยวงานลอยกระทง โดยมีภรรยา พร้อมลูกสาวอายุเดือนครึ่ง กับลูกชาย อายุ 10 ขวบ ไปเที่ยวงานด้วย
แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นจังหวะที่ให้ภรรยากับลูกยืนรอทางเข้างาน ก่อนที่จะเดินไปขับรถยนต์ที่จอดไว้ แต่บังเอิญเดินผ่านกลุ่มคู่อริประมาณ 4-5 คนกำลังตั้งล้อมวงดื่มเหล้า ซึ่งเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทส่วนตัว เพราะบ้านอยู่ติดกัน ทำให้เป็นปมขัดแย้งส่วนตัวมานานเป็นปี โดยฝ่ายคู่อริได้ตะโกนด่าเยาะเย้ย หยามศักดิ์ศรี พร้อมชูนิ้วกลางให้ของลับ
ทำให้นายดอนโกรธมาก ตัดสินใจเดินกลับไปเอาปืน ขนาด 9 มม.ในรถที่ติดมาด้วย และเดินกลับเข้าหากลุ่มคู่อริ ขณะที่ฝ่ายคู่อริก็พยายามเดินเข้ามาประชิดตัว ไม่คาดคิดว่าผู้ต้องหาจะจ่อยิงไม่ยั้งจนหมดแมกกาซีนรวมทั้งหมด 14 นัด เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูก นายสำราญ บรรทร อายุ 33 ปี เป็นคนแรก รวมถึง นายใจเพชร โมฬีชาติ อายุ 34 ปี เสียชีวิตคาที่
ส่วนอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บพยายามลุกวิ่งหนี คือ นายถนัดชัย ธรรมจันทร์ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนเพื่อนร่วมวงอีก 3-4 คนวิ่งหนีทัน
ภายหลังชี้จุดเกิดเหตุจุดแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายดอน ผู้ต้องหา ไปชี้จุดเกิดเหตุจุดที่ 2 คือบริเวณหน้า สภ.บ้านแพง เพราะหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดเพื่อขอมอบตัวต่อตำรวจ
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.บ้านแพง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุด้วยความโมโห แต่ไม่รู้มาก่อนว่าคู่กรณีจะมานั่งตั้งวงดื่มเหล้าในเส้นทางที่เดินไปเอารถยนต์ส่วนตัว เพราะช่วงที่มาจอดเพื่อพาภรรยากับลูกไปเที่ยวงานลอยกระทงไม่เห็นใคร แต่พอขากลับเดินผ่านมากลับถูกตะโกนด่า เยาะเย้ย จึงตัดสินใจก่อเหตุ ซึ่งไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีการวางแผนมาก่อน
ส่วนปมขัดแย้งสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุกับผู้ตายทั้ง 2 รายมีอาชีพค้าขายผัก และมีบ้านเช่าอยู่ติดกัน เป็นที่มาของการเกิดปัญหาส่วนตัวทะเลาะกันมานาน ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ากลุ่มผู้ตายชอบส่งเสียงดังช่วงกลางดึกสร้างความเดือดร้อนรำคาญตลอด จนเกิดเรื่องทะเลาะกันมาต่อเนื่อง แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายกัน พอวันเกิดเหตุทางกลุ่มผู้ตายได้ตะโกนด่าเยาะเย้ย จึงเกิดความโมโหขาดสติ ตัดสินใจก่อเหตุ และยอมรับผิดขอมอบตัวทันที
ส่วนปมขัดแย้งทางธุรกิจผิดกฎหมาย หรือปมขัดแย้งอื่นยังไม่พบชนวนเหตุ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะได้สอบสวนพยานแวดล้อมทุกฝ่ายเพื่อประกอบการดำเนินคดี และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
เบื้องต้นแจ้งข้อหาฐานความผิดเจตนาฆ่า และมีอาวุธปืน พกพาอาวุธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะโดยผิดกฎหมาย