ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชแจ้งเตือนด่วน ปชช.9 อำเภอลุ่มน้ำลำพระเพลิงและลุ่มน้ำมูล ให้เก็บของขึ้นที่สูงและเตรียมพร้อมอพยพ รับมือน้ำท่วมรอบสอง หลังฝนถล่มหนักน้ำไหลลงเขื่อนลำพระเพลิงล้นทะลักลงลำพระเพลิงและแม่น้ำมูลอีกระลอก ขณะล่าสุดยังจม 9 อำเภอ เดือดร้อน 3,077 ครัวเรือน
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่าจากการที่มีฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาและตกสะสมมาหลายวัน ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา เพิ่มระดับขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว ทำให้มีปริมาณน้ำล้นเขื่อนและต้องระบายน้ำลงท้ายเขื่อนมากขึ้น โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำ 356.368 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 113.32 % ของความจุดอ่างฯ 314.49 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 160.625 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 103.63% ของขนาดความจุ 155 ล้านลบ.ม. ซึ่งวันนี้ (1 พ.ย.) ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิงได้แจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยง 10 ตำบล อ.ปักธงชัย และ 3 ตำบล อ.โชคชัย ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเก็บของขึ้นที่สูง อีกครั้งหลังเพิ่งผ่านพ้นภาวะวิกฤตน้ำท่วมรอบแรกไปและหลายพื้นที่ยังประสบน้ำท่วมอยู่
ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออก ประกาศจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง แจ้งเตือนการระบายน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง ลงวันที่ 1 พ.ย. 2563 เวลา 09.30 น. ระบุว่า ด้วยจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง แจ้งว่าได้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่รับน้ำเหนือ เขื่อนลำพระเพลิง ทำให้มีมวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิง ปริมาณเกินระดับเก็บกักและไหลล้นออกทางระบายน้ำล้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงขอให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตตำบลลำนางแก้ว, ตะขบ, สุขกษม, งิ้ว, นกออก, ดอน, ตูม, บ่อปลาทอง, เมืองปัก, สะแกราช อำเภอปักธงชัย และตำบลท่าลาดขาว, พลับพลา, กระโทก อำเภอโชคชัย และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ, อำเภอโนนสูง, อำเภอจักราช, อำเภอพิมาย ,อำเภอชุมพวง, อำเภอลำทะมนชัย และ อำเภอเมืองยาง ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมเก็บของขึ้นที่สูง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน
จังหวัดนครราชสีมาจึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง ในเขต 10 ตำบล ของอำเภอปักธงชัย และ 3 ตำบล อำเภอโชคชัย และอีก 7 อำเภอดังกล่าวรับทราบ และตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร แจ้งข้อมูลให้ประชาชนในพื้นที่ทราบโดยตรง และติดตามสถานการณ์น้ำ จัดเวรเฝ้าระวังประจำตามจุดเสี่ยงต่างๆ หากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ให้สั่งอพยพประชาชนไปยังจุดอพยพที่ได้จัดเตรียมไว้ทันที
พร้อมแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุ จัดเตรียมความพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย และจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเผชิญเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะยุติ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาทราบโดยตรง
พร้อมกันนี้ นายวิเซียร จันทรโณศัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา และผู้อำนวยการจังหวัด ได้ออกโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนครราชสีมา ด่วนที่สุด ที่ นม 002ด /529 ลงวันที่ 1 พ.ย. 2563 ถึงนายอำเภอปักธงชัย, นายอำเภอโชคชัย, นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ, นายอำเภอโนนสูง, นายอำเภอพิมาย, นายอำเภอชุมพวง, นายอำเภอลำทะเมนชัย และนายอำเภอเมืองยาง, ผู้อำนวยการอำเภอ อ้างถึงกรณีโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิงแจ้งว่าได้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อนลำพระเพลิง ทำให้มีมวลน้ำ จำนวนมากไหลข้าเอนลำพระเพลิงในปริมาณเกินระดับเก็บกัก และไหลล้นออกทางระบายน้ำล้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงให้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่งใน 10 ตำ อ.ปักธงชัย 3 ตำบลใน อ.โชคชัย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.โนนสูง อ.จักราช อ.พิมาย อ.ชุมพวง อ.ลำทะเมนชัย และ อ.เมืองยาง ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมอพยพกรณีเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ ให้สั่งอพยพประชาชนไปยังจุดอพยพที่ได้จัดเตรียมไว้ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่สำนักงาน ปภ.จังหวัดนครราชสีมา สรุปสถานการณ์ท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล่าสด (ข้อมูล 19.00 น. 31 ต.ค. 63) ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมรวม 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง โชคชัย โนนสูง พิมาย เฉลิมพระกียรติ จักราช ปักธงชัย สูงเนิน และอำเภอห้วยแถลง รวม 25 ตำบล 2 เทศบาลตำบล 114 หมู่บ้าน 3,077 ครัวเรือน ถนน 14 สาย โรงเรียน 7 แห่งวัด 7 แห่ง สำนักสงฆ์ 2 แห่ง สะพาน 4 แห่ง และฝ่าย 1 แห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย