เชียงราย/ลำปาง - มวลชนคณะราษฎรต่างจังหวัดชุมนุมคู่ขนานกรุงเทพฯ ต่อเนื่อง..นศ.ธรรมศาสตร์ลำปางรวมตัวคืนที่สามกลางกาดกองต้า ส่วนเชียงรายกลุ่มปลดแอกรับคิวเปิดเวทีสวนตุงและโคมฯ ทั้งคนเสื้อแดง นศ.ราชภัฏฯ ม.แม่ฟ้าหลวง ร่วมหนาแน่น
มวลชนเครือข่ายคณะราษฎร 63 ในภาคเหนือยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เฉพาะลำปาง กลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์ ในนาม “กลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน” ที่รวมตัวช่วงเย็นมาแล้ว 2 รอบ (16-17 ต.ค.) ทั้งที่ข่วงนคร แยกหอนาฬิกากลางเมืองและถนนหน้าหอพักภายใน ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง กระทั่งเกิดเหตุมีคนปลดพระบรมฉายาลักษณ์หน้ามหาวิทยาลัยมาแล้ว ล่าสุดเย็นที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ได้ชุมนุมกันที่ “กาดกองต้า” ถนนคนเดิน ซึ่งเปิดทุกเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาจับจ่ายซื้อสินค้า รับประทานอาหาร และเดินท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยกลุ่มนักศึกษาได้รวมตัวกันบริเวณต้นซอย และมีเยาวชนนักเรียนได้ทยอยมาร่วมชุมนุมกันคึกคัก จากนั้นแกนนำได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนที่ถูกจับกุม และยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ปฏิรูปสถาบัน
แกนนำได้ระบุว่า ที่นัดชุมนุมที่กาดกองต้าในวันนี้นอกจากจะมาแสดงจุดยืนแล้ว ยังต้องการให้ผู้ชุมนุมมาช่วยซื้อสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าในกาดกองต้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย และเมื่อถึงเวลาเคารพเพลงชาติ แกนนำได้เชิญชวนทุกคนร่วมชู 3 นิ้ว สัญลักษณ์ของการชุมนุม ก่อนที่จะพูดพร้อมกันว่า..ประยุทธ์ออกไป เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ ก่อนทยอยแยกย้ายกันเดินเที่ยวในกาดกองต้า
ทั้งนี้ จะสังเกตได้ว่าบริเวณกาดกองต้าเย็นวานนี้ทุกจุดจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชาย-หญิง และชุดควบคุมฝูงชนยืนดูแลความปลอดภัยรวมแล้วประมาณ 30 นาย
ช่วงเวลาเดียวกัน นายกฤตตฤณ สุขบริบูรณ์ น.ส.นรินทรา แสงขาม นายสราวุทธิ์ กุลมธุรพจน์ หรือเซียนแว่น ฯลฯ และอีกหลายคน พร้อมมวลชนสนับสนุนคณะราษฎร 2563 ในเชียงราย ได้จัดเวทีทำกิจกรรมคู่ขนานกับการชุมนุมที่กรุงเทพฯ อีกครั้งที่ลานรำวงย้อนยุค สวนตุงและโคมนครเชียงราย ถนนธนาลัย อ.เมืองเชียงราย
โดยกิจกรรมมีการเชิญชวนผูกโบขาวที่ข้อมือทุกคน การปราศรัยจากบุคคลต่างๆ ซึ่งพบว่าเดิมจะมีการจัดให้เฉพาะตัวแทนจากผู้เคลื่อนไหวรุ่นใหม่หรือเยาวชน แต่ครั้งนี้พบว่านอกจากจะมีเยาวชนในเขตเมืองเชียงรายและใกล้เคียงเข้าร่วมแล้ว ยังมีกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ที่เพิ่งจัดกิจกรรมไปเมื่อวันก่อนเดินทางมาเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดงเชียงราย เข้าร่วมมากกว่าเดิม
นายกฤตตฤณกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ก็เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยเพื่อนของพวกเราที่ถูกจับกุมตัวไป โดยยืนยันจะดำเนินการตามการชุมนุมที่กรุงเทพฯ กำหนด และหากไม่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวพวกเราจะไม่ยอมอย่างแน่นอน โดยจำนวนผู้ที่ออกมาเรียกร้องจะเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ
นายผดุงเกียรติ ก๋าวิต๊ะ เยาวชนอีกคนได้กล่าวปราศรัยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศหรือเมืองอื่นที่มีพระมหากษัตริย์ที่ออกรบเพื่อปกป้องประเทศและมีไพร่พลเป็นกำลังสำคัญ ดังนั้นประเทศนี้จึงควรให้ศักดิ์ศรีของคนอย่างเท่าเทียมกันด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิทย์ ควรหยุดทำร้ายประชาชน และหยุดทำร้ายตำรวจและทหารชั้นผู้น้อยด้วย เพราะไม่ว่าระดับสัญญาบัตรหรือประทวนก็มีศักดิ์ศรีเท่ากัน และหากเจ้าหน้าที่คนใดถูกกระทำก็ขอให้ถอดเครื่องแบบแล้วมาอยู่กับประชาชนได้
น.ส.จิตต์ศจีฐ์ นามวงค์ จากกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ได้รับเชิญให้กล่าวปราศรัย บอกว่า เคยต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยมาแล้วร่วม 10 ปี จนถูกคดีต่างๆ มามากมายทั้งที่เชียงใหม่ และล่าสุดกรณีปิดสวิตช์ ส.ว.ที่ จ.เชียงราย แต่ก็จะสู้ต่อไปและขอบคุณที่คนรุ่นใหม่มาสานต่ออุดมการณ์คนเสื้อแดงของพวกเรา ตนยืนยันว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ทั้งอาหาร น้ำดื่ม และบริจาคทรัพย์เล็กๆ น้อยๆ ในการทำกิจกรรมหลายครั้ง
ด้านนายสราวุทธิ์ หรือเซียนแว่น กล่าวว่า พวกเราจะต่อสู้ต่อไป ขอให้ทางเจ้าหน้าที่หยุดคุกคามประชาชนและไม่ใช้ความรุนแรง แต่หากมีคนใดในที่นี้ที่ถูกดำเนินคดีพวกเราจะร่วมกันออกมาสู้โดยจะพากันไปชุมนุมที่สถานีตำรวจนั้นๆ ทันที
จากนั้นเวทีมีการร้องเพลงเพื่อชีวิตโดยศิลปินและผู้เข้าร่วมใช้แสงไฟจากโทรศัพท์มือถือเป็นสัญลักษณ์กวัดแกว่งไปมา ก่อนที่จะผลัดเปลี่ยนกันให้แต่ละคนได้ขึ้นปราศรัยแสดงความเห็นต่างๆ แล้วแต่ความสมัครใจ ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย และเทศกิจ เทศบาลนครเชียงราย