กาฬสินธุ์ - ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ คุมตัวพ่อเลี้ยงเด็กชายวัย 3 ขวบ มาสอบปากคำเข้ม
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย หลังถูกออกหมายจับ เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยใช้กำปั้นทุบและชกเด็ก
จากกรณีเจ้าหน้าที่อายัดศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ 5 เดือน ชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตอย่างปริศนา โดยพบบาดแผลขัดแย้งกับการสอบประวัติผู้ป่วยก่อนเสียชีวิต โดยเฉพาะหน้าผากมีอาการบวมปูด ขอบตาบวมมีรอยเขียวช้ำ และกระดูกข้อต่อบริเวณศอกแขนข้างซ้ายหลุด สงสัยว่าเด็กอาจถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่
ต่อมาศาลอนุมัติหมายจับที่ จ 220/63 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2563 เพื่อจับกุมตัวนายคณากรณ์ มูลมั่ง อายุ 30 ปี พ่อเลี้ยงเด็กชายวัย 3 ขวบ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย
ล่าสุด เมื่อวันนี้ (18 ต.ค.) ผู้เสื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากได้ศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้คุมตัวนายคณากรณ์ มูลมั่ง อายุ 30 ปี พ่อเลี้ยงเด็กชายวัย 3 ขวบ มาสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ตรวจสอบและหาสาเหตุการเสียชีวิตให้กระจ่างชัดโดยเร็วที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับดำเนินการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับนายคณากรณ์ มูลมั่ง อายุ 30 ปี พ่อเลี้ยงเด็กชายวัย 3 ขวบ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย พร้อมกับควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
พ.ต.อ.สมชายกล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายคณากรณ์ยังคงให้การภาคเสธ โดยแบ่งรับแบ่งสู้ และหลังจากก่อนหน้านี้ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายเด็ก แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยทำร้ายร่างกายเด็กชายวัย 3 ขวบซึ่งเป็นลูกเลี้ยงมาหลายครั้ง โดยการใช้กำปั้นชกและทุบตามร่างกายและศีรษะซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นสาหัส โดยครั้งล่าสุดวันเกิดเหตุ 10 ตุลาคม 2563 นั้น นายคณากรณ์ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้าย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อในคำให้การทั้งหมด เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่าวันเกิดเหตุได้ทำร้ายเด็กหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลการสอบสวน
ขณะที่ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับให้ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งตรวจสอบว่ามีคนใกล้ชิดและบุคคลอื่นร่วมทำร้ายร่างกายเด็ก หรือรู้เห็นเป็นใจในเหตุการณ์ครั้งนี้อีกหรือไม่ หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะขออนุมัติหมายจับและนำตัวมาดำเนินตามกฎหมายต่อไป