ตราด - ชลประทานตราด เผยอิทธิพลดีเปรสชันทำอ่างเก็บน้ำ 7 แห่งในพื้นที่มีปริมาณน้ำเพิ่มจนเกินกว่าความต้องการใช้ในภาพรวม ยันเกษตรกรชาวสวนสบายใจไม่ขาดน้ำใช้ช่วงฤดูแล้ง แต่ยังแอบหวั่นหากมีดีเปรสชันลูกใหม่อาจเสี่ยงเกิดน้ำท่วมได้
วันนี้ (12 ต.ค.) นายชัยกร ลุนทา หัวฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการชลประทานจังหวัดตราด เผยว่า จากการที่มีฝนหนักติดต่อกันหลายวันในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้ง จ.ตราด ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพายุดีเปรสชันที่พัดผ่านเข้ามาในประเทศไทย ได้ส่งผลดีต่ออ่างเก็บน้ำ 7 แห่งในพื้นที่
ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำคลองโสน อ่างเก็บน้ำเขาระกำ อ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง อ่างเก็บน้ำสะพานหิน อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ อ่างเก็บน้ำด่านชุมพล และอ่างเก็บน้ำบ้านมะนาว มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น 194.316 ล้าน ลบ.ม. เกินกว่าความต้องการใช้น้ำที่มีประมาณ 184.065 ล้าน ลบ.ม.
โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำสำคัญ 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำเขาระกำ มีปริมาณน้ำรวม 50.475 ล้าน ลบ.ม. เกินกว่าความต้องการใช้น้ำที่มีประมาณ 47.685 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองโสน มีปริมาณน้ำมากถึง 65.333 ล้าน ลบ.ม. จากความต้องการใช้ 65.000 ล้าน ลบ.ม.
และอ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง ที่มีปริมาณน้ำมากถึง 40.265 ล้าน ลบ.ม. เกินกว่าความต้องการใช้น้ำที่มี 36.50 ล้าน ลบ.ม. ถือว่าเพียงพอต่อการทำเกษตรกรรมของประชาชน โดยเฉพาะชาวสวนผลไม้
อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกลงมาอีกจากอิทธิพลของพายุลูกใหม่ ตามการประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค.นี้ เชื่อว่า จ.ตราด จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่มากจนเกินไป และอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้
เช่นเดียวกับ นายพีระวัฒน์ วังรัตน์กุล นายอำเภอเขาสมิง บอกว่า หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ได้ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 7 แห่งของจังหวัด ซึ่งช่วงเดือนที่ผ่านมา อ่างเก็บน้ำทั้ง 7 แห่งยังมีปริมาณน้ำรวมเพียงร้อยละ 70 ของความจุของอ่าง จนทำให้ชาวบ้านและเกษตรกรเกิดความวิตกกังวลว่าในช่วงหน้าแล้งปีหน้าอาจไม่มีน้ำสำหรับใช้ดูแลสวนผลไม้ เนื่องจาก อ.เขาสมิง ถือเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกผลไม้มากที่สุด โดยเฉพาะทุเรียน
แต่ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อมีฝนหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่มีเพียงพอต่อความต้องการ และเชื่อว่าจะมีเหลือใช้ไปจนถึงฤดูแล้งปีหน้า
