กาฬสินธุ์ - เขื่อนลำปาวยังน่าห่วง สถานการณ์ล่าสุดระดับน้ำกักเก็บอยู่ที่ 871 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 44% ยังต่ำกว่าเกณฑ์ ลุ้น 12-14 ตุลาคมนี้จะมีฝนตกเพิ่มในภาคอีสานเติมน้ำเข้าเขื่อน ด้านผู้ว่าฯ จ.กาฬสินธุ์เตรียมระดมทุกภาคส่วนหารือรับมือภัยแล้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว เปิดเผยว่า ภายหลังจากนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำและเตรียมวางแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงผ่านพ้นฤดูฝนเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 871 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,108 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมายังมีฝนตกในพื้นที่ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดเช้าวันนี้ 8 ตุลาคม 2563 มีปริมาณน้ำไหลเข้า 16 ล้าน ลบ.ม. แต่ปริมาณน้ำยังต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ และหากเทียบกับปริมาณน้ำในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วพบว่าปริมาณน้ำน้อยกว่ามาก โดยเมื่อปี 2562 หลังมีพายุ “โพดุล” เข้ามาในพื้นที่ ทำให้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,697 ล้าน ลบ.ม. หรือ 85 เปอร์เซ็นต์ แต่ปีนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำเพียง 871 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นายฤาชัยกล่าวต่อว่า จากการติดตามสถานการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้จะมีปริมาณฝนตกมากขึ้น ซึ่งจะต้องรอดูสถานการณ์ช่วงปลายฝนว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเติมเขื่อนลำปาวมากน้อยเพียงใด จากนั้นหลังจากวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ทางผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและประเมินสถานการณ์อีกครั้งเพื่อเตรียมวางแนวทางรับมือ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้หากมีฝนตกในพื้นที่อยากให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกร รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีแหล่งน้ำและมีแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง แก้มลิง การประปาผิวดิน ควรกักเก็บน้ำไว้อุปโภค บริโภคให้ได้มากที่สุดเพื่อความไม่ประมาท