ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 และแก้มลิงแห่งใหม่ เพื่อรองรับน้ำฝนให้ได้มีประสิทธิภาพ เผย กทม.จะดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพกายภาพของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก และจะเร่งพัฒนาระบบระบายน้ำลดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่
วันนี้ (8 ต.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์รูปภาพลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เขตห้วยขวาง อีกทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนในฤดูกาลนี้ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน” โดยระบุข้อความว่า
เช้านี้ (8 ต.ค. 63) ผมไปตรวจความพร้อมของอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เขตห้วยขวาง แล้วก็ไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย เพราะต้องเตรียมพร้อมและทำงานหมุนเวียนกันตลอด 24 ชั่วโมงตลอดฤดูฝน เพื่อเดินระบบระบายน้ำ รวมถึงดูแลซ่อมบำรุงอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 ให้พร้อมทำงานเต็มที่
สำหรับอุโมงค์พระราม 9 หรือ อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นส่วนหนึ่งของระบบระบายน้ำ ที่ช่วยดึงน้ำจากคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวในพื้นที่เขตห้วยขวาง บางกะปิ บึงกุ่ม วัฒนา วังทองหลาง และลาดพร้าว ไปออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเร็วขึ้น โดยไม่ต้องผ่านระบบคลองปกติซึ่งมีระยะทางไกลกว่าจะถึงแม่น้ำ และยังช่วยลดระดับน้ำในคลองระบายน้ำให้มีระดับต่ำได้รวดเร็วด้วย โดยกทม.ยังมีแผนจะขยายโครงการต่อเนื่อง โดยก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ จากอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว ถึงบริเวณซอยลาดพร้าว 130 ครับ
ส่วนอีกจุดหนึ่ง คือ แก้มลิงบึงหมู่บ้านเฟรนชิพ ซอยสุคนธสวัสดิ์ 25 ซึ่งเป็นแก้มลิงเก็บน้ำแห่งใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยการพัฒนาบึงรับน้ำขนาดใหญ่ขนาด 40 ไร่ มาก่อสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 1,440 เมตร มีประตูระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ควบคุม ที่จุน้ำได้ 120,000 ลูกบาศก์เมตร เชื่อมต่อลำรางออหลาวและคลองเสือใหญ่ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนสุคนธสวัสดิ์และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะกักเก็บน้ำไว้ที่แก้มลิงบึงหมู่บ้านเฟรนชิฟ ในช่วงที่ฝนตก จากนั้นจะระบายลงสู่ลำรางออหลาวและคลองเสือใหญ่เมื่อระดับน้ำในคลองลดลงต่อไป
สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังกรุงเทพฯ นั้น กทม.จะดำเนินการแก้ไขปัญหาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพกายภาพของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก บางแห่งทำได้เพียงติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บางแห่งมีโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ บางแห่งเป็นแก้มลิง หรือเป็นบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน อย่างไรก็ตาม กทม.จะเร่งพัฒนาระบบระบายน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่ที่สุดครับ