ราชบุรี - ผู้เสียหายจำนวนมากแห่แจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี หลังถูกฉ้อโกงหลอกให้โอนเงินซื้อโปรทองราคาถูก สูญเงินรวมมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท
เย็นวันนี้ (7 ต.ค.)ได้มีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีต่่อน้องโบว์ ตัวแทนเจ้าของโปรทอง เนื่องจากถูกหลอกให้ซื้อโปรทอง หรือทองคำในราคาที่ถูกกว่าร้านทองประมาณ 50% แต่เมื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับทองคำ ตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อมีการทวงถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา
ล่าสุด ได้มีการท้าทายให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ เนื่องจากไม่มีทองจะให้ รวมทั้งเงินที่ผู้เสียหายโอนให้ไปก็จะคืนให้เพียง 10% ของจำนวนเงินที่โอนไปให้เท่านั้น จึงได้รวมตัวมาแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อน้องโบว์ โดยมี ร.ต.อ.พิพัฒน์ แป้งหอม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี เป็นผู้รับแจ้งความ เบื้องต้น ค่าเสียหายมูลค่ารวมเกือบ 20 ล้านบาท
ด้าน น.ส.ทิวาวรรณ กล่ำรุ่ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 7 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และ น.ส.ขวัญแก้ว ศรีลา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 257 หมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ บอกว่า ถูกเพื่อนๆ ชักชวนให้ร่วมซื้อโปรทอง หรือทองคำราคาถูกกว่าร้านทอง โดยมีพฤติการณ์ให้โอนเงินไปแลกทองในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด 50% และจะได้ทองภายในประมาณ 20 วัน ก่อนหน้านี้ ได้รู้จากทางเฟซบุ๊กว่ามีการลงทุนประเภทนี้ ซึ่งก่อนที่จะลงทุนได้เช็กทั้งโปรไฟล์ทุกอย่างว่ามีคนเคยได้รับทองจริงๆ บวกกับที่เขาเองเป็นเพื่อนกับตนด้วยจึงเชื่อใจ
สำหรับในส่วนของตนโอนลงทุนไปแล้วจำนวน 24,000 บาท แต่ยังไม่เคยได้รับทองเลย และในส่วนของกลุ่มตัวแทนต่างๆ ซึ่งเป็นผู้เสียหายรวมวงเงินที่ลงทุนไปแล้วประมาณกว่า 1,800,000 บาท เมื่อตนพยายามติดต่อกลับไปทวงถาม กลับได้รับคำตอบว่า "จะคืนเงินให้เพียงแค่ 10% ที่ลงทุนมา ใครไม่พอใจให้ไปแจ้งความเอาเอง"
ส่วน น.ส.ตรีชฎาภร วชิรเดชากร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 5 ต.หลุมดิน อ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า วันนี้มาแจ้งความคดีฉ้อโกงเงินซื้อขายทอง โดยรู้จากทางเฟซบุ๊กที่เขาโพสต์ประมาณว่า "ทองราคาถูก ทองน้ำหนักตั้งแต่สลึงจนถึงเป็นบาท มีโปรโมชันสำหรับคนที่รอรับตามวันที่กำหนดได้ ราคาจะถูกครึ่งต่อครึ่งจากราคาในท้องตลาด" โดยผู้เสียหายเฉพาะในกลุ่มที่ตนเองอยู่จากทั้งหมด 30 กลุ่ม รวมกว่า 60 คน เป็นจำนวนเงินกว่า 1,800,000 บาท จำนวนเงินผู้เสียหายจะมี ตั้งแต่ 4,000-240,000 บาท ตนเองเสียหายทั้งหมด 120,000 บาท โดยโอนจำนวน 2 ครั้ง คือวันที่ 9 และวันที่ 25 แต่ยังไม่เคยได้รับทองเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อทวงถามไปกลับได้รับคำตอบบอกว่า "ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อคนที่เขาจะนำทองมาให้ได้" บ่ายเบี่ยงตลอด จนล่าสุดบอกว่าวันที่ 1 ต.ค.จะมาเคลียร์ แต่ก็เงียบหาย จนผู้เสียหายในกลุ่มติดต่อได้ เขาบอกแต่เพียงว่า จะคืนเงินให้แค่ 10% และถ้าใครไปแจ้งความ เขาจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
และในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 18.00 น. นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พปชร. พร้อมด้วย นายเอกชัย พลอยหิน ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.วัดเพลง เป็นตัวแทนพาผู้เสียหายกว่า 20 ราย ที่ถูกหลอกให้ซื้อโปรทอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.นัทธมน ปิ่นแก้ว ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลอกให้ร่วมเล่นหุ้นโปรทองคำ โดยอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูง ต่อ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และ พ.ต.ท.พงศกร เหมราช รอง ผกก.สอบสวน เมืองราชบุรี
โดยผู้เสียหายทั้งหมดได้นำสำเนาเอกสารการโอนเงิน สำเนาเอกสารการคุยในไลน์และเฟซบุ๊กระหว่างผู้เสียหายกับตัวแทน น.ส.นัทธมน ปิ่นแก้ว มาเป็นหลักฐาน เพื่อลงบันทึกแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งระหว่างแจ้งความได้มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.โบว์ ตัวแทนเจ้าของโปรทองที่ถูกแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
ด้าน น.ส.โบว์ ตัวแทนเจ้าของโปรทอง ที่ถูกแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย แต่ตนเป็นตัวแทนอีกที คือพอได้เงินมาตนจะส่งต่อมาไปให้เจ้าของโปรทองตัวจริงทันที ซึ่งตนมีหลักฐานการโอนเงินทั้งหมดมาเป็นหลักฐานยืนยัน ตนเป็นคนที่โดนกระทำเหมือนกัน และก่อนที่มีผู้สนใจจะเข้ามาร่วมลงทุนซื้อโปรทอง ตนได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ตนเป็นเพียงตัวแทน หากเกิดความเสียหายตนจะไม่รับผิดชอบ เพราะโปรทองมันคือความเสี่ยงอยู่แล้ว และเงินที่ตนได้มาก็โอนไปให้เจ้าของโปรทอง จำนวนประมาณ 2,000,000 กว่าบาท เฉพาะในกลุ่มของตนเป็นตัวแทน มีผู้เสียหายประมาณ 30 กว่าคน ซึ่งจะมีคนที่เคยได้ทองมาแล้ว 10 กว่าคน และกลุ่มของตนเพิ่มเริ่มเปิดกลุ่มมาได้แค่ 2-3 เดือนเท่านั้น ซึ่งตนเองมีหลักฐานในการโอนเงินทุกอย่างครบ
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า เบื้องต้น เรารับคำร้องทุกข์ของประชาชนที่มาแจ้งความ กองบังคับการจะตั้งคณะทำงานฝ่ายสืบสวนสอบสวนช่วยกันกับคดีนี้โดยเฉพาะ และจะมีส่วนของกองปราบเข้ามาสนับสนุนภารกิจ คดีนี้ไม่น่าจะเป็นคดีที่ซับซ้อนอะไร แต่เราจะสืบสวนสอบสวนดูในข้อมูลเชิงลึกอีกด้วยว่า เส้นทางการเงินเป็นมาอย่างไร เบื้องต้น ตั้งข้อหาเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน อาจจะมีคดี พ.ร.บ.เงินกู้ด้วย แต่ต้องขอดูหลักฐานเพิ่มเติม ระยะเวลาในการดำเนินการคาดว่า 1 เดือน น่าจะเป็นรูปร่างและหาผู้กระทำความผิดได้
เพราะคดีแบบนี้จะเกี่ยวพันกับธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งต้องรวบรวมหลักฐานจากสถาบันทางการเงินด้วยอาจต้องใช้เวลาบ้างแต่ถ้าสามารถรวบรวมได้เร็วก็อาจจะไม่ถึง 1 เดือน จำนวนผู้เสียหายที่มาแจ้งความร้องทุกข์ในวันนี้ประมาณ 10 กว่าคน แค่คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 30 คน คงจะมาแจ้งความร้องทุกข์กันเรื่อยๆ ถ้าผู้เสียหายคนไหนที่ไม่สะดวกมาแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ตามภูมิลำเนา ตามที่ท่านอยู่ได้ แล้วเรื่องจะส่งต่อตามกระบวนการจนถึงระดับภาคต่อไป