นครพนม - งานไหลเรือไฟนครพนมคืนแรกคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่ชมความงามเรือไฟที่ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟนับหมื่นดวง ประเดิมแข่งขันประเภทความคิดสร้างสรรค์จาก 2 อำเภอ ขณะที่พรุ่งนี้คืนออกพรรษามีเรือไฟลอยลำโขงแข่งความงามมากถึง 7 ลำ จาก 7 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคืนแรกของการไหลเรือไฟแข่งขันประเภทความคิดสร้างสรรค์ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมากกว่าทุกวัน เพราะต่างก็ต้องการชมความงดงามแห่งสายน้ำโขงที่ชาวนครพนมร่วมแรงร่วมใจกันนำไม้ไผ่นับหมื่นลำมาสรรค์สร้างเป็นเรือไฟ ขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 60-80 เมตร
ส่วนความสูงจะอยู่ระหว่าง 20-30 เมตร พร้อมมีการประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟนับแสนดวงให้เกิดเป็นลวดลายต่างๆ ตามจินตนาการที่ต้องการสื่อให้เห็น ส่วนใหญ่จะตกแต่งให้เห็นถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนแต่ละชุมชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนมและสถานที่สำคัญต่างๆ ของจังหวัดที่บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมา ความเชื่อ ความศรัทธาและความเป็นหนึ่งเดียวของคนนครพนม เพื่อเป็นประทีปพุทธบูชาในช่วงวันออกพรรษาในปีนี้
การจัดงานปีนี้ ทางจังหวัดให้ความสำคัญต่อมาตรการคุมเข้มเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจุดคัดกรองผู้ที่ร่วมงานกว่า 34 จุดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณงานทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานความมั่นคงคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีหน่วยปฐมพยาบาลทั้งแบบเคลื่อนที่เร็วและแบบประจำจุดไว้คอยบริการกรณีฉุกเฉินเมื่อเกิดการเจ็บป่วยกะทันหัน
สำหรับการไหลเรือไฟในคืนที่ผ่านมา (30 ก.ย.) มีเรือไฟแข่งด้วยกัน 2 ลำ แข่งขันในประเภทความคิดสร้างสรรค์ คือเรือไฟของอำเภอนาหว้า ที่มีความยาว 60 เมตร ตกแต่งตะเกียงไฟ 9,000 ดวง สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดเรือไฟ ชีวิตวิถีใหม่ ไทยชนะ เป็นรูปพญานาคราชอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงที่ปกปักรักษาชาวนครพนม
รวมถึงการสื่อสารให้ทุกคนได้รู้ว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร มีการป้องกันอย่างไร โดยมีการนำเอาเทคนิคพิเศษมาใช้ ทำให้ส่วนปากพญานาคเคลื่อนไหว ส่วนมือสามารถกดเจลแอลกอฮอล์ได้
ส่วนเรือไฟของอำเภอวังยางมีความยาว 60 เมตรเช่นเดียวกัน แต่มีตะเกียงไฟมากกว่าคือ 9,500 ดวง เรือไฟประกอบไปด้วย รวงข้าวที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ พระเจดีย์สามร่มโพธิ์ศรี พระใหญ่บ้านวังโน ประตูระบายน้ำบ้านนาขามอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนหัวเรือจะปรากฏพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่ทอดพระเนตรมายังพสกนิกรทุกหมู่เหล่าด้วยความห่วงใยจากฟากฟ้า
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับคืนนี้ (1 ต.ค.) จะมีการไหลเรือไฟจำนวน 3 ลำ ได้แก่ เรือไฟอำเภอบ้านแพง ขนาดความยาว 60 เมตร ประดับตกแต่งดวงไฟ 15,000 ดวง เรือไฟของอำเภอปลาปาก ขนาดความยาว 60 เมตร ประดับตกแต่งดวงไฟ 12,000 ดวง และอำเภอนาแก ขนาดความยาว 70 เมตร ประดับตกแต่งดวงไฟ 15,000 ดวง ซึ่งส่งเข้าแข่งขันในประเภทความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันออกพรรษาจะมีการไหลเรือไฟทั้งสิ้น 7 ลำ โดยลงแข่งขันในประเภทสวยงาม คือเรือไฟจากอำเภอศรีสงคราม ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 20,000 ดวง อำเภอโพนสวรรค์ ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 25,000 ดวง อำเภอนาทม ความยาว 60 เมตร ตะเกียงไฟ 20,000 ดวง อำเภอท่าอุเทน ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 20,000 ดวง
เรือไฟของอำเภอเมืองนครพนม ความยาว 80 เมตร ตะเกียงไฟ 25,000 ดวง อำเภอเรณูนคร ความยาว 79 เมตร ตะเกียงไฟ 13,000 ดวง และอำเภอธาตุพนม ความยาว 63 เมตร ตะเกียงไฟ 10,000 ดวง