เชียงใหม่ - เปิดใจ! ทันตแพทย์หนุ่มขอความเป็นธรรม รพ.เอกชนดังเชียงใหม่ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ทำภรรยาตาย ทั้งที่เข้ารักษาปวดท้องน้อยและคลื่นไส้อาเจียน โดนฉีดสารทึบรังสีเพื่อเอกซเรย์ แต่แพ้หนักจนสิ้นใจ แถมพบเพิ่งตั้งท้อง จ่อร้องแพทยสภา
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ธีระวุฑฒ์ หวงสุวรรณากร" โพสต์บอกเล่าเรื่องราวและร้องความเป็นธรรมจากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กรณีที่ภรรยาเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการปวดท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน แล้วแพทย์สงสัยว่าอาจจะเป็นนิ่วทางเดินปัสสาวะ จึงทำการฉีดสารทึบรังสีเพื่อเอกซเรย์คอมพิเตอร์ช่องท้องส่วนล่าง แต่ปรากฏว่าเกิดอาการแพ้จนอาการทรุดหนักและเสียชีวิตในที่สุด ทั้งๆ ที่อยู่ในความดูแลรักษาของแพทย์โรงพยาบาลชั้นนำ นอกจากนี้ยังมาทราบภายหลังที่ภรรยาเสียชีวิตด้วยว่าภรรยากำลังตั้งท้อง จากการที่แพทย์สวนปัสสาวะร่างที่เสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้พยายามขอคำอธิบายจากทางโรงพยาบาลแล้ว แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ นอกจากยืนยันว่ารักษาตามมาตรฐานทุกขั้นตอน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนี้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันแชร์และแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เป็นทันตแพทย์เจ้าของคลินิกทำฟันแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนภรรยาที่เสียชีวิตนั้นเป็นเภสัชกร
วันนี้ (30 ก.ย. ) ทันตแพทย์ ธีระวุฑฒ์ หวงสุวรรณากร อายุ 35 ปี ทันตแพทย์เจ้าของคลินิกทำฟันแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยพ่อและแม่ เปิดเผยกรณีที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 63 ช่วงเช้าได้พา "กิ๊ฟ" เภสัชกรผู้เป็นภรรยาวัย 35 ปีที่มีอาการปวดมวนท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเชื่อมั่นและหวังได้รับการรักษาที่ดี
แพทย์ได้ทำการตรวจเบื้องต้นสงสัยว่าจะเป็นนิ่วในไต ต้องแอดมิตที่โรงพยาบาลและทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จึงพากันกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าแล้วมาส่งภรรยาที่โรงพยาบาลเพื่อแอดมิตและเตรียมทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จากนั้นประมาณ 13.00 น.ตนได้แยกตัวกลับไปทำงาน แต่ปรากฏว่าช่วงบ่ายได้รับแจ้งว่าภรรยามีอาการแพ้สารทึบรังสีที่ฉีดเข้าไปเพื่อทำการเอกซเรย์ โดยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงรีบไปหาที่โรงพยาบาล โดยพบว่าอาการหนักต้องเข้าไอซียูและมีการปั๊มหัวใจ
ตอนแรกแพทย์บอกว่าอาการทรงตัว และเห็นว่าอยู่ในการรักษาของแพทย์แล้ว อีกทั้งเป็นโรงพยาบาลชื่อดัง จึงวางใจ แต่ปรากฏว่าต่อมาภรรยาอาการแย่ลงและเสียชีวิตในที่สุดเวลาประมาณ 19.00 น. รวมทั้งเพิ่งทราบจากแพทย์ภายหลังที่ภรรยาเสียชีวิตแล้วว่าภรรยากำลังตั้งครรภ์ เพราะตรวจพบถุงตัวอ่อนอายุประมาณ 6-7 สัปดาห์ ซึ่งยิ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจและสูญเสียยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเป็นท้องแรกของภรรยาและตนไม่เคยทราบมาก่อน
ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่องได้พยายามขอคำอธิบายจากทางโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้อำนวยการโรงพยาบาล แต่ไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน นอกจากระบุสาเหตุการตายว่ามาจากน้ำท่วมปอดจากอาการแพ้ยา และอ้างแต่เพียงว่ารักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ ขณะที่ช่วงจัดงานศพได้รับเพียงพวงหรีด 2 พวงเท่านั้นและไม่เคยมีคำขอโทษ ส่วนการเยียวยาครอบครัวนั้น โรงพยาบาลแจ้งว่าจะเยียวยาด้วยการช่วยลดค่ารักษาพยาบาลให้พ่อแม่ผู้เสียชีวิตแทน จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมและให้กรณีของตนเป็นอุทาหรณ์ด้วยการโพสต์บอกเล่าเรื่องราว และเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนต่อแพทยสภาในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนี้ว่าโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้บกพร่องในการรักษาหรือไม่อย่างไร รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนของการจัดงานศพของ "กิ๊ฟ" เภสัชกรผู้เป็นภรรยาของทันตแพทย์หนุ่มนั้น มีการจัดพิธีฌาปนกิจเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 27ก.ย.63 ที่สุสานประตูเหล็ก ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นบ้านเกิด และมีบ้านของครอบครัวอยู่ย่านถนนประตูชัยในตัวเมืองพะเยา ทั้งนี้พ่อแม่และน้องชายของผู้เสียชีวิตที่อยู่บ้านดังกล่าว ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆทั้งสิ้น.