หลังทันตแพทย์หนุ่มโวย รพ.ดังเชียงใหม่ รักษาภรรยาจนเสียชีวิต และไม่ได้รับคำขอโทษใดๆ ทั้งนี้ มีความคืบหน้าว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สั่งสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ญาติสบายใจ ยัน หากพบความผิดเตรียมดำเนินตามกฎระเบียบที่วางไว้
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ธีระวุฑฒ์ หวงสุวรรณากร” โพสต์บอกเล่าเรื่องราวและร้องขอความเป็นธรรมจากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กรณีที่ภรรยาเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการปวดท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน แล้วแพทย์สงสัยว่าอาจจะเป็นนิ่วทางเดินปัสสาวะ จึงทำการฉีดสารทึบรังสีเพื่อเอกซเรย์คอมพิเตอร์ช่องท้องส่วนล่าง แต่ปรากฏว่า เกิดอาการแพ้จนอาการทรุดหนักและเสียชีวิตในที่สุด ทั้งๆ ที่อยู่ในความดูแลรักษาของแพทย์โรงพยาบาลชั้นนำ นอกจากนี้ ยังมาทราบภายหลังที่ภรรยาเสียชีวิตด้วยว่าภรรยากำลังตั้งท้อง จากการที่แพทย์สวนปัสสาวะร่างที่เสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้พยายามขอคำอธิบายจากทางโรงพยาบาลแล้ว แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ นอกจากยืนยันว่า รักษาตามมาตรฐานทุกขั้นตอน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนี้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันแชร์และแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เป็นทันตแพทย์เจ้าของคลินิกทำฟันแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนภรรยาที่เสียชีวิตนั้นเป็นเภสัชกร
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยตรวจมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว
โดยทางแพทย์ ได้มีการขอประวัติผู้ป่วย เอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับพยาบาล เบื้องต้นพบว่า แพทย์พบผู้เสียชีวิต มีประวัติการปวดหน่วงท้อง และแสบเวลาปัสสาวะ มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 จึงเชื่อว่าไม่มีการตั้งครรภ์ รวมถึงไม่มีประวัติการแพ้ยา และอาหารใดๆ จึงดำเนินการส่งตรวจ CT Scan
ทั้งนี้ ทาง “กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง และแพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการรักษา เพื่อให้กระจ่างในสาเหตุการตาย และคลายข้อสงสัยฝ่ายญาติว่า มีการช่วยเหลือผู้ป่วยตามมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะดำเนินการด้านจริยธรรมกับแพทย์และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ