พิษณุโลก - จนท.ทั้งป่าไม้ ปทส. ตชด.ซุ่มจับมอดไม้กลางป่าวังทอง เจอกำลังขนไม้เถื่อนขึ้นรถเต็มตา แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่บุกพากันเผ่นหนีทันที ยึดประดู่ท่อนคาท้ายกระบะพร้อมบัตร ปชช. เงินสด มือถือ
วันนี้ (24 ก.ย.) นายเสกสันต์ ลอมแปลง หัวหน้าหน่วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย, พ.ต.ท.ชัย ถิ่นน้ำใส สารวัตร ปทส.ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก, นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าสายตรวจปราบปราม สบอ.11 พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันที่ พล.10 (น้ำดำ)-ตำรวจป่าไม้ กก. 4 บก.ปทส.และ ตชด. 315 ได้ลาดตระเวนทางเท้าเข้าตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ป่าซำประตู หมู่ที่ 14 ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก พบไม้กระยาเลยถูกตัดโค่นและตัดทอนเป็นท่อนๆ
จากนั้นจึงวางกำลังดักซุ่มดูเหตุการณ์ จนเวลาผ่านไปราว 20 นาที พบกลุ่มบุคคลเป็นชายประมาณ 3-4 คนกำลังขนย้ายไม้กระยาเลย (ไม้ท่อน) ดังกล่าวขึ้นท้ายกระบะรถยนต์ที่จอดรออยู่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงาน พร้อมเข้าทำการตรวจสอบ แต่กลุ่มคนดังกล่าวอาศัยความชำนาญวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปได้ต่อหน้าต่อตา
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อ NISSAN สีเขียว ทะเบียน บค 4381 พิษณุโลก ภายในกระบะท้ายบรรทุกไม้ประดู่ท่อน 12 ท่อน จึงยึดเป็นของกลางและเคลื่อนย้ายไปที่ทำการหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เมืองพิษณุโลกที่ พล.10 (น้ำดำ) หมู่ที่ 10 ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก
ตรวจค้นภายในรถยนต์ พบเอกสารการต่อประกันภัยและพบธนบัตรฉบับละ 1 พันบาท 4 ฉบับ ธนบัตรฉบับละ 500 บาท 1 ฉบับ ธนบัตรฉบับละ 100 บาท 2 ฉบับ ธนบัตรฉบับละ 20 บาท 3 ฉบับ เหรียญราคา 5 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และพบบัตรประจำตัวประชาชนของนายบุญเลิศ อินแตง อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่ 14 ต.ดอนทอง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของผู้กระทำผิดได้ทิ้งไว้ระหว่างการหลบหนีการจับกุมของคณะเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ยังพบว่าไม้ประดู่ของกลางทั้ง 12 ท่อนถูกตัดโค่นด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับ ถูกตัดจากพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งบันทึก สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อตามหาผู้กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ฐาน “ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต” และมาตรา 54 ประกอบมาตรา 55 ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต” และมาตรา 69 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังไม่ได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย” รวมทั้งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 35 และ พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 67 (2)