พิษณุโลก - DSI นัดยื่นคดียึด "สวนแสงพรหมรีสอร์ท" ถึงมือ ป.ป.ช.พรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ระบุที่ดินอำเภอวัดโบสถ์มีเอี่ยว ส่อออกโฉนดโดยมิชอบ
กรณีทหาร ศปป.4 กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่ป่าไม้สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก และชุดหน่วยเฉพาะกิจพยัคฆ์ไพรเข้าทำการตรวจยึดและจับกุม "สวนแสงพรหมรีสอร์ท" หมู่ที่ 1 ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากการก่อสร้างอาคารรีสอร์ตและครอบครองที่ดินเกิน น.ส.2 ข. พื้นที่ 103 ไร่ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
นายสมพร ทิพยโสต นัยนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภาค 6 เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีการบุกรุกที่ป่าที่อยู่ในเขตป่าสงวน 103 ไร่ ตามที่มีเอกสารสิทธิ กว่า 50 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ด้วย
"ดีเอสไอสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าออก น.ส.3 ก. โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ป.ป.ช. เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกัน พนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช.จะต้องดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ที่ดิน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ซึ่งจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดี พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ควบคุมตัวในวันตรวจยึดสวนแสงพรหมรีสอร์ทในวันนี้ (3 ก.พ.)" นายสมพรกล่าว
ทั้งนี้ สวนแสงพรหมรีสอร์ทได้ขอออก น.ส.2 ข.ไม่ถูกต้อง เนื่องจากออกภายหลังประกาศเป็นป่าไม้ถาวร ซึ่งเรื่องนี้กรมสืบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้ารับคดีดำเนินการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ เพราะป่าไม้ไม่มีอำนาจในการสอบสวน ซึ่งพบว่าใบจอง น.ส.2 ข.ฉบับนี้เป็นคนละพื้นที่กับการก่อสร้างรีสอร์ตอยู่ห่างจาก น.ส.2 ข.ตัวจริงประมาณ 3 กิโลเมตร ภายหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ประสานกับดีเอสไอรับเรื่องไปดำเนินคดี ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ และการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าไม้เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป หรือทรัพย์สินมีมูลค่า 100 ล้านบาท
สำหรับ "สวนแสงพรหมรีสอร์ท" เป็นธุรกิจในเครือห้างทองแสงพรหม เลขที่ 130/2-4 บริเวณตลาดโคกมะตูม อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่ถูกอายัดทรัพย์มูลค่า 500,000,000 บาท เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2562 ซึ่งถูกระบุว่าอยู่ในเครือข่ายแก๊งยาบ้าตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งสองพ่อลูกยังอยู่ในระหว่างหลบหนี คือ นายนันทพันธ์ หรือปรีชา หรือพรหม หรือพรหมชัย อภิชัยธนาธิป หรือโกศิริ หรือวิชัยธนภัทรอายุ 83 ปี และบุตรชาย คือ นายพันธนันท์ อภิชัยธนาธิป อายุ 30 ปี
