พิษณุโลก - ชาวชุมชนกลางเมืองสองแควผวา.. นายทุนซุ่มซื้อตึกดัดแปลงแอบเลี้ยงนกนางแอ่น ใช้ช่องโหว่กฎหมายอ้างไม่ได้จับนก แต่โกยรังขาย กก.ละ 80,000 บาทมานาน สร้างความเดือดร้อนทั้งกลิ่น-เสียงดังหัวซอยยันท้ายซอย
วันนี้ (21 ก.ย.) นายเกรียงวิชญ์ เตชวิทยไวทิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาชาวชุมชนซอยสีฟ้า อ.เมืองพิษณุโลก ที่ได้ร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก ว่ามีนายทุนกว้านซื้ออาคารพาณิชย์ในซอยสีฟ้า ถนนบรมไตรโลกนารถ อ.เมืองพิษณุโลก ทำเป็นแหล่งขยายพันธุ์นกนางแอ่น จำนวน 2 หลัง ทำให้เกิดความเดือดร้อนทั้งเรื่องเสียง ความสะอาด หวั่นเกิดโรคระบาดจากสัตว์ปีกสู่คน
โดยมีนายธีรสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.ทสจ.พิษณุโลก นายอธิปไตย ไกรลาศ ผอ.งานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก ตัวแทนจากเทศบาลนครพิษณุโลก สำนักงานปศุสัตว์ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลก และชาวชุมชนซอยสีฟ้า กว่า 20 คนร่วมถกปัญหาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
นางวรพรรณ ย่วนยืนรักษ์ ชาวบ้านชุมชนซอยสีฟ้า เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีนายทุนจากภาคใต้มาซื้ออาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่งในซอย 1 หลัง ดัดแปลงชั้นบนเป็นที่สำหรับให้นกนางแอ่นอยู่อาศัย และได้มาเก็บรังนกออกไปขายแล้ว และขณะนี้ทราบว่ากำลังมีการดัดแปลงอาคารพาณิชย์ในซอยนี้อีก 1 หลัง เพื่อให้เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่น ซึ่งชาวบ้านในซอยวิตกกังวลกันหมด เนื่องจากบริเวณถนนบรมไตรโลกนารถมีการใช้อาคารพาณิชย์ ดัดแปลงเป็นที่ให้นกนางแอ่นอาศัยมาแล้วก่อนหน้านี้ 3 คูหา
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เกิดมลพิษทางกลิ่นและเสียง เนื่องจากผู้เลี้ยงปล่อยให้นกเป็นอิสระ เวลาพลบค่ำจะมีการปล่อยสัญญาณให้นกบินกลับเข้ารัง ซึ่งการเลี้ยงนกจำนวนที่มากและปล่อยบินอย่างอิสระเช่นนี้ทำให้ยากต่อการควบคุมความสะอาด ฝูงนกได้ปล่อยมูลไปทั่วบริเวณ ส่งกลิ่นเหม็น ทำลายสีรถและเสื้อผ้าไปทั่ว อีกทั้งยังเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลกชี้แจงว่า หลังได้รับเรื่องก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบบริเวณซอยสีฟ้า ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พร้อมติดต่อผู้ประกอบการเข้ามาพบเพื่อปรับปรุงแก้ไข เบื้องต้นเจ้าของตึกอ้างว่าเขาไม่ได้เลี้ยงนก อย่างไรก็ตาม กรณีเหตุเดือดร้อนรำคาญ 3 ประเด็น ได้แก่ เรื่องกลิ่น เรื่องเสียงเรียกเพื่อล่อนก และเสียงของนก เทศบาลฯ จะออกคำสั่งให้มีการปิดเสียงล่อนก เพราะไม่มีเหตุอันควรที่จะเปิด ส่วนเรื่องของเสียงนก กำลังหารือเพื่ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการต้องปิดช่องทางเข้าออกของนกต่อไป
ตัวแทนจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ชี้แจงว่า นกนางแอ่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง รัฐบาลได้เปิดให้สัมปทานเก็บรังนกในถ้ำได้ แต่สำหรับบ้านนกยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ในภาคใต้ก็มีการทำธุรกิจบ้านนกกันมานานแล้ว
กรณีบ้านนกที่ซอยซุมชนสีฟ้า อ.เมืองพิษณุโลก จากการสอบถามเบื้องต้น เจ้าของตึกอ้างว่าไม่ได้เลี้ยง นกมาอยู่อาศัยเอง ซึ่งตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535 แค่ล่อ (เป่าปาก) ก็ถือว่าพยายามล่าสัตว์แล้ว แต่กฎหมายใหม่ที่บังคับใช้วันที่ 25 พ.ย. 2562 การเข้าข่ายคำว่า “ล่า” ได้ต้องบ่งชี้ถึงการทำอันตรายต่อสัตว์นั้น
โดยการเปิดตึกให้นกนางแอ่นมาทำรัง พวกเขาอ้างว่าเขาไม่ได้จับนก เขาแค่มาเอารังนก ไม่ได้มาจับที่ตัวนก เป็นการใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ตามกฎหมายสัตว์ป่าปี 2562 ถ้าจะจับนายทุนนี้ได้ต้องไปจับช่วงที่มีคนงานไปเก็บของกลางหรือรังนก จึงมีความผิดครอบครองรังนกได้ เนื่องจากนกนางแอ่นเป็นนกชนิดเดียวที่กฎหมายควบคุมเรื่องการเก็บรัง ถ้าพบการเก็บรังซึ่งหน้าสามารถควบคุมและสามารถอายัดรังได้
“ถ้ามองในด้านธุรกิจ พิษณุโลกมีศักยภาพการทำธุรกิจรังนกที่มีราคาสูงถึง กก.ละ 80,000 บาทได้ เพราะแม้ในตัวเมืองที่มีเสียงดังรบกวน นกยังมาอาศัยทำรังอยู่ แต่ต้องรอการร่างและออกกฎหมายตัวใหม่ออกมาบังคับใช้ และการควบคุมการเลี้ยงที่ไม่ให้อยู่ในแหล่งชุมชน และต้องออกเทศบัญญัติโดยท้องถิ่นห้ามเลี้ยงในเขตชุมชน”
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนซอยสีฟ้าขณะนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้เทศบาลนครพิษณุโลก เร่งดำเนินการตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขเรื่องการระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนก่อน พร้อมทั้งประสานให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนตั้งตัวแทน 3-5 ราย เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขต่อไป
