กาญจนบุรี - ไซเรนรถดับเพลิงก็ไม่เว้น!! 3 ชายฉกรรจ์ย่องเบาลักไซเรนรถดับเพลิง โชคดีหมาเห่า หัวหน้าดับเพลิงสะดุ้งตื่น คว้าปืนไล่ขู่ วิ่งป่าราบขึ้นเก๋งหลบหนี คาดนำไปติดรถ 10 ล้อ หรือรถบัส
เวลา 15.10 น.วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายวิทยา สมจริยา หรือโจ๊ก หัวหน้าฝ่ายปกครอง สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองปากแพรก หมู่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า ช่วงเวลาประมาณตี 1 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวม 4 คน กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่อาคารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายบายพาส เพื่อเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุโนอึล
ขณะที่กำลังนอนหลับ ปรากฏว่า ตนได้ยินสุนัขเห่าเสียงดังผิดปกติ จึงเกิดเอะใจ ตนจึงเปิดดูกล้องวงจรปิดที่เชื่อมสัญญาณกับโทรศัพท์มือถือ ปรากฏว่า พบชายฉกรรจ์ 2 คน เดินเข้ามาภายในบริเวณที่จอดรถดับเพลิง จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คนก็เดินออกไป ไม่นานนัก 1 ใน 2 ก็เดินย้อนกลับเข้ามาแล้วพยายามนำประแจถอดเอาไซเรนที่ติดตั้งเอาไว้บริเวณหน้ารถดับเพลิง
เมื่อตนเห็นจึงตัดสินใจออกจากห้องนอนด้วยการนำเอาอาวุธปืนประจำกาย เมื่อมาถึงตนได้พยายามตะโกนให้หัวขโมยคนดังกล่าวหมอบลงพร้อมกับให้ยกมือขึ้น แต่ปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวไม่ทำตามและได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบีย ที่มีคนจอดรออยู่บริเวณริมถนน แล้วเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
จากการตรวจภาพกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้โดยรอบอย่างละเอียด พบว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มหัวขโมยได้ไปขโมยไซเรนที่ติดเอาไว้บนหลังคารถดับเพลิงไปแล้ว จำนวน 1 อัน ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งไซเรนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับมอบมาเพื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน สำหรับงานบรรเทาสาธารณภัยโดยตรง ซึ่งไซเรนที่ถูกขโมยไปนั้นมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท
เชื่อว่าการเข้ามาขโมยไซเรนรถดับเพลิงครั้งนี้น่าจะมีคนสั่งออเดอร์เข้ามา โดยมักนิยมนำไปติดตกแต่งกับรถบัส หรือรถบรรทุก 10 ล้อ ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าสูงถึง 7-8,000 บาท แต่ถ้าหากไม่นำไปติดตั้งกับรถเหล่านี้ก็จะไม่มีมูลค่าอะไรเลย ดังนั้น ส่วนตัวแล้วอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในเวลาตั้งด่านขอให้ช่วยตรวจสอบด้วย
สำหรับกลุ่มหัวขโมยมาด้วยกันทั้งหมด 3 คน คนแรกมีรูปร่างอ้วน สวมหมวกแก๊ปติดช่อชัยพฤกษ์ อีก 1 รายสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า จะสังเกตได้ว่ามีรอยสักที่แขนซ้ายทั้งแขน ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ส่วนอีก 1 คน นั่งรออยู่ภายในรถยนต์ จึงไม่เห็นใบหน้าและรูปร่าง