อุทัยธานี - ภัยแล้งกลางฤดูฝนยังรุนแรงหลายพื้นที่ พบน้ำสะแกกรังนิ่งสนิทจนเริ่มเน่าเสียเสื่อมโทรมหนัก ทำปลาวังมัจฉา เขตอภัยทานวัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำ น็อกน้ำตายเป็นเบือ ต้องประกาศงดให้อาหารปลา รอพายุฝนเติมน้ำใหม่
พระครูสมุห์ละออง ธัมมะจาโร พระผู้ดูแลวังมัจฉา เขตอภัยทานวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) หรือวัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี กล่าวว่า ขณะนี้แม่น้ำสะแกกรัง วิกฤตอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเขตอภัยทาน หรือเขตรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำของวัด ระยะทาง 1 กิโลเมตร มีปลาลอยตายวันละหลายร้อยตัวตั้งแต่วันที่ 17 กันยายนแล้ว
สาเหตุน่าจะมาจากสภาพน้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น มีฟองขึ้นมา และมีสีดำ เพราะน้ำในแม่น้ำสะแกกรังไม่ไหลเวียน ส่งผลให้ปลาขาดออกซิเจนน็อกตายเป็นจำนวนมาก ทั้งปลาเทโพ ปลาสวาย ที่มีน้ำหนัก 5-10 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปลาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ทั้งสิ้น และมีแนวโน้มที่จะตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ซึ่ง 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งพระครูสมุห์ละออง ธัมมะจาโร พระผู้ดูแลวังมัจฉา และคนงานของวัดได้พากันออกเรือไปเก็บปลาที่ตายทั้งในและนอกเขตอภัยทาน รวมทั้งประกาศงดให้อาหารปลาชั่วคราว เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบให้น้ำเน่าเสียมากกว่าเดิม
พระครูสมุห์ละออง ธัมมะจาโร กล่าวอีกว่า จำเป็นต้องงดให้นักท่องเที่ยวให้อาหารปลาไปก่อนชั่วคราว ถึงแม้ว่าปลาเทโพจะเป็นปลาที่กินอาหารเก่ง แต่ตอนนี้น้ำเน่าเสียจึงจำเป็นต้องงดจำหน่ายอาหารให้แก่นักท่องเที่ยวจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ โดยตอนนี้ทางวัดได้นำเครื่องผลิตออกซิเจนมาทำการติดตั้งบริเวณวังมัจฉา จำนวน 5 เครื่องเพื่อเพิ่มอากาศให้แก่ปลามากขึ้น
และล่าสุด เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดอุทัยธานี พร้อมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครสวรรค์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแม่น้ำสะแกกรัง บริเวณหน้าแพวังมัจฉา วัดจันทาราม พบว่าสภาพน้ำเสื่อมโทรมมาก น้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็นและเป็นสีดำ เนื่องจากน้ำนั้นไม่ไหลระบายไปไหนจากสถานการณ์ภัยแล้ง จึงส่งผลให้ไม่มีออกซิเจนในน้ำจนปลาน็อกน้ำตาย ซึ่งหากมีน้ำเติมลงมา หรือมีพายุฝนเข้ามาก็จะช่วยไล่น้ำเน่าเสียไปได้