อุตรดิตถ์ - ผู้เลี้ยงปลากระชังน้ำน่านอ่วมซ้ำ..โควิดระบาดทำขายปลาไม่ได้ยังไม่ทันผ่านพ้น พายุซินลากูถล่มทำน้ำเหนือหลากจนปลาน็อกน้ำตายเป็นเบือวันเดียวนับ 10 ตัน ต้องตักขายกิโลฯ ละ 5 บาท
วันนี้ (5 ส.ค.) นายสิรภพ คุณสิริประภารัตน์ เจ้าของกระชังปลาสิรภพฟาร์ม พร้อมคนงาน ต้องเร่งมือตักปลานิลแดง (ปลาทับทิม) ขนาดต่างๆ ที่เลี้ยงไว้ในน้ำน่าน 180 กระชัง แล้วเกิดน็อกน้ำตายลอยเกลื่อนกระชัง
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุซินลากูที่ทำให้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยว ทั้งมีสีแดงขุ่น จนปลาปรับตัวไม่ทัน ไม่มีอากาศหายใจ เกิดอาการน็อกและลอยตายเกลื่อนกระชัง
นายสิรภพกล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทางตอนเหนือทำให้แม่น้ำสาขาต่างๆ เป็นสีแดงขุ่น และเต็มไปด้วยดินโคลน ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน จนออกซิเจนในน้ำน้อย ปลานิลแดงที่เลี้ยงไว้กว่า 120,000 ตัวหรือ 180 กระชัง เกิดอาการน็อกและตายในที่สุด
“เฉพาะวันนี้สำรวจแล้วเสียหายมากถึง 10 ตันหรือ 1 หมื่นกิโลกรัม จึงต้องเร่งตักขายแบบไม่มีกำไร หรือขายขาดทุนกันเลย โดยหากเป็นปลาที่ไม่ได้ขนาดต้องประกาศขายถูกๆ กิโลกรัมละ 5 บาท ให้ชาวบ้านนำไปทำปลาแดดเดียว หรือปลาร้า แต่แม้จะประกาศขายถูกยังแทบหาคนซื้อไม่ได้เพราะทุกกระชังก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน”
นายสิริภพบอกว่า ต้องพยายามลดการสูญเสียให้มากที่สุด เนื่องจากช่วงไวรัสโควิดระบาดปลากว่า 100 ตันก็ขายไม่ได้ ยังมาเจออิทธิพลพายุซินลากูอีกครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมแล้วประมาณ 3 ล้านบาท ตอนนี้นอกจากต้องตักปลาตายขายแล้ว ยังต้องเร่งตักปลาที่ไม่ได้ขนาดส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้านำไปตระเวนขายตามตลาดนัด จากปกติขายส่งกิโลกรัมละ 75 บาท ลดราคาขายเพียงกิโลกรัมละ 40 บาท เพื่อเป็นการระบายปริมาณปลาในกระชังให้ลดน้อยลง
