พระนครศรีอยุธยา - ปมคอมเมนต์เฟซบุ๊กเป็นเหตุ จนไปสู่ 2 อู่ซ่อมรถเปิดฉากทะเลาะวิวาทจนบุกมาแทงถึงหน้าอู่ ด้านพ่อเจ้าของอู่ เห็นลูกจะถูกแทงคว้าปืนลูกซองกระหน่ำยิงเจ็บหลายราย
กลางดึกวานนี้ (16 ก.ย.) พ.ต.ท.พีรกุล แฝงฤทธิ์หลง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนน จอมพล ป. มุ่งหน้าสี่แยกอำเภออุทัย ม.3 ต.คุ้งลาน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้รายงาน พ.ต.อ.พิษณุ พราหมณ์เทศ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ รักษาการ ผกก.สภ.บางปะอิน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลอุทัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กร 4689 ลพบุรี สภาพประตูกระจกด้านฝั่งคนขับถูกอาวุธปืนยิงเป็นรู จำนวน 21 รู ข้างรถยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 ราย คือ นายวิโรจน์ ชูสร้อย อายุ 31 ปี อาการสาหัสนอน หายใจรวยรินอยู่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ช่วยกันปฐมพยาบาลและปั๊มหัวใจ ก่อนประสานทีมแพทย์กู้ชีพโรงพยาบาลอุทัย มาทำการช่วยเหลือและเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วน น.ส.กัลยา ไผ่ด้วง อายุ 21 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ขณะที่นายวิรัตน์ ชูสร้อย อายุ 32 ปี พี่ชายได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะกระสุนฝังใน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชธานีไปก่อนหน้านี้
จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรถยนต์กระบะที่ถูกยิง เปิดเป็นร้านซ่อมรถยนต์ บริเวณพื้นหน้าร้านพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ 3 ปลอก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้หลบหนีไปไหนยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อต่อมาคือ นายฐิติพงศ์ ภาควัตร์ อายุ 56 ปี ชาว อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว พร้อมลูกกระสุนปืนที่อยู่ในกระบอกปืน 2 นัด เป็นลูกซองเบอร์ 12 ที่ยังไม่ได้ถูกใช้งาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางปะอิน โดยเผยว่า ตนเองได้ยินเสียงลูกชายตะโกนเรียก ว่าพ่อๆ เอาปีนออกมาผมถูกไล่แทง เมื่อได้ยินแบบนั้นหัวอกคนเป็นพ่อ เมื่อลูกจะถูกทำร้าย และบุกรุกมาถึงที่ร้าน จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคู่กรณีดังกล่าว
จากการสอบถาม นายพลวัฒน์ ภาควัตร์ อายุ 28 ปี กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นพ่อ ตนเองเป็นลูกชาย และได้เปิดอู่ซ่อมรถยนต์อยู่ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บได้มาจอดรถอยู่ทางด้านฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็เดินมาที่ร้าน ตนอยู่ภายในร้าน ซึ่งขณะนั้นร้านได้ปิดประตูร้านแล้ว จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนยิงเข้ามาในร้าน 1 นัด จึงออกมาดูก็พบผู้บาดเจ็บยืนอยู่บริเวณหน้าร้านและมีการโต้เถียงกัน ผู้บาดเจ็บพยายามจะเอามีดแทงตนเอง จึงได้ตะโกนเรียกพ่อ ว่าพวกมันมาอีกแล้วและให้พ่อหยิบปืนมาด้วย จากนั้นพ่อออกมาก็ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้บาดเจ็บ 2 นัด ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้บาดเจ็บซึ่งทำอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถยนต์เหมือนกันและตนเองได้เข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กของรุ่นพี่เกี่ยวกับการซ่อมรถ
โดยที่ตนเองก็ไม่ได้รู้จักกับผู้บาดเจ็บมาก่อน จึงเป็นสาเหตุทำให้ผู้บาดเจ็บไม่พอใจ จนเมื่อวานผู้ก่อเหตุได้ขับรถเก๋งมาที่ร้าน และมาเบิ้ลรถอยู่หน้าร้านก่อนขับออกไป ตนเองจึงขับรถตามออกไปถามว่ามีปัญหาอะไร และมาเบิ้ลรถหน้าร้านทำไม ทำให้ไม่พอใจจะใช้มีดแทงตนเอง ตนเองจึงกลับมาที่ร้านและคนเจ็บก็ขับรถหลบหนีไป จนมาวันนี้ ผู้บาดเจ็บก็กลับมาหาเรื่องที่ร้านตนอีก 1 ครั้ง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่อง หรือรู้จักกับผู้บาดเจ็บมาก่อนและที่ต้องทำก็เพราะผู้บาดเจ็บได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาที่ร้านของตนก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน จึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุและลูกชายของผู้ก่อเหตุนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ รักษาการ ผกก.สภ.บางปะอิน เผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ลูกชายผู้ก่อเหตุมีอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถ เหมือนกันกับผู้บาดเจ็บ แล้วนายพลวัฒน์ ลูกชายผู้ก่อเหตุมีการไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก ของรุ่นพี่ ซึ่งมีนายวิรัตน์ ผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนด้วยทำให้นายวิรัตน์ เห็นคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก จึงไม่พอใจ แล้วมีการมาหาเรื่องนายพลวัฒน์ ที่หน้าร้านก่อนแล้ว 1 วัน จนวันนี้กลับมาอีกครั้ง จึงทำให้นายฐิติพงศ์ ภาควัตร์ อายุ 56 ปี ผู้เป็นพ่อ ออกมาปกป้องลูก จึงใช้อาวุธปืนก่อเหตุดังกล่าว ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าคู่กรณีมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาก่อนนั้นยังไม่พบพยานหลักฐาน
เบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหาต่อ นายฐิติพงศ์ ภาควัตร์ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปีนไว้ในครอบครอง