ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ สั่งเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า และพื้นที่ชั้นใน พร้อมยอมรับ หากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ จ.มะริด ประเทศพม่ารุนแรง อาจทบทวนคำสั่งผ่อนผันการนำเข้าส่งออกสินค้าแห้งผ่านด่านสิงขร
วันนี้ (15 ก.ย.) นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดช่องทางตามแนวชายแดนติดกับประเทศพม่า ตลอด 24 ชม. พร้อมจัดชุดลาดตระเวน และนำลวดหนามปิดกั้นช่องทางธรรมชาติทุกจุดเพื่อป้องกันคนต่างด้าวใช้เป็นเส้นทางเดินเท้าลักลอบเข้าประเทศ ส่วนพื้นที่ตำบลติดชายแดนได้มีการตั้งจุดตรวจจุดคัดกรองจำนวน 23 จุด และได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดใช้จุดตรวจถาวรสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด และจุดตรวจห้วยยาง อ.ทับสะแก บนเส้นทางถนนเพชรเกษม เป็นจุดตรวจคัดกรองตอนในอีกชั้นหนึ่งด้วย
สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้มีอุปกรณ์ป้องกันตนเองที่รัดกุม เช่น หน้ากากอนามัย เฟซชิลด์ ชุดป้องกันเชื้อโรค หากพบคนต่างด้าวลักลอบเข้ามาในช่องทางธรรมชาติเจ้าหน้าที่จะผลักดันออกไปทันที แต่หากจับกุมได้ในพื้นที่ชั้นในจะดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลักดันกลับประเทศ
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้จังหวัดยังคงผ่อนผันให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าส่งออกสินค้าประเภทแห้งผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ได้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 แม้ขณะนี้ทางการพม่า จะเริ่มตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.มะริด ซึ่งมีพื้นที่ชายแดนติดกับ จ.ประจวบฯ
โดยยืนยันว่า มาตรการที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้มีประสิทธิภาพเพียงพอ มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อยานพาหนะ ผู้ทำหน้าที่ขนถ่ายสินค้าที่จุดขนถ่ายหน้าศาลเจ้าพ่อหินกองต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ จ.มะริด รุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นต้องเปลี่ยนแนวนโยบายด้านชายแดน ทางจังหวัดก็พร้อมที่จะพิจารณาทบทวนคำสั่งผ่อนผันการนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขร ขณะที่ในเร็วๆ นี้ อาจจะมีการนัดประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและพม่าเพื่อติดตามประเมินสถานการณ์และวางมาตรการร่วมกันทั้งด้านความมั่นคงและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19