พิษณุโลก - ป่าไม้เดินหน้ายุทธศาสตร์พิทักษ์ป่า บุกจับสวนยางรายใหญ่รุกป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อยชัดร่วม 300 ไร่ ไร้เงาเจ้าของแสดงตัว ส่ง สภ.วัดโบสถ์ ตามหาตัวนายทุนดำเนินคดี
วันนี้ (3 ก.ย.) นายอิทธิพล ประเทือง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า พล.9 (ปากพาน น้ำโจน) พร้อมกำลัง จนท.ป่าไม้ ออกปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์พิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเข้าตรวจสอบเป้าหมายบุกรุก ครอบครองผืนป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย บริเวณหมู่ 10 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ พิษณุโลก ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับพิกัดค่าทางดาวเทียมพบว่าสภาพพื้นที่เต็มไปด้วยแปลงสวนยางพารารกร้าง มีต้นยางยืนต้นตายและยังไม่ตาย เมื่อสอบถามผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.คันโช้ง ทราบว่าไม่รู้ว่าสวนยางพาราดังกล่าวเป็นของใคร แต่คาดว่าเป็นคนมาจากต่างถิ่น และสอบถามผู้ครอบครองพื้นที่ข้างเคียงก็ไม่สามารถยืนยันเจ้าของหรือผู้เข้ามาทำประโยชน์ได้ อีกทั้งไม่มีผู้ใดแสดงตัวครอบครอง
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเนื่องจากพบว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อยชัดเจน โดยแปลงแรกคำนวณพื้นที่ได้ 191-1-04 ไร่ คิดเป็นมูลค่าเสียหายแก่รัฐ 13,052,389 บาท แปลงที่ 2 คำนวณพื้นที่ได้ เนื้อที่ 87-2-36 ไร่ คิดเป็นมูลค่าเสียหายแก่รัฐ 5,977,511 บาท รวมเนื้อที่ตรวจยึดทั้งหมด 278-3-40 ไร่
จากนั้นจึงทำบันทึกร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.สงวน ห่วงพลอย สภ.วัดโบสถ์ ตาม ปจว.ข้อ 2 วันที่ 3 ก.ย. 63 คดีอาญาที่ 300/2563 เพื่อสืบสวนติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 และมาตรา 55 แผ้วถางหรือกระทำการใดๆ เป็นการทำลายทรัพยากรป่าไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ยึดถือ ครอบครองป่า ทำประโยชน์ แผ้วถางป่าเป็นอันเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ดำเนินการปราบปรามบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มนายทุน บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติต่างๆ ตลอด 5-6 ปีที่ผ่าน โดยได้ตรวจยึดและตัดโค่นสวนยางพาราอย่างหนัก บางรายสามารถจับกุมหรือมีตัวผู้ต้องหา แต่หลายแปลงไม่สามารถจับมีผู้ต้องหาก็ส่งดำเนินคดี ตรวจยึดและทำการโค่นสวนยางพาราแปลงใหญ่ ใน อ.วังทอง อ.วัดโบสถ์ อ.นครไทย และ อ.เนินมะปราง รวมนับหมื่นไร่
