เชียงใหม่ - เปิดรายชื่อรีสอร์ตม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวดังเชียงใหม่..เข้าคิวโดนบังคับใช้ ม.25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 สั่งยึด-รื้อถอน ล่าสุดพบ รมต.ทส.สั่งยกคำร้องอุทธรณ์ระนาว ขณะที่ผู้ประกอบการเดินหน้าสู้ฟ้องศาลปกครองแล้ว 5 ราย
ความคืบหน้าการแก้ปัญหารีสอร์ตม่อนแจ่มในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) ตำบลโป่งแยง และตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคณะทำงานแก้ไขปัญหาฯ พบว่ามีผู้ประกอบการเข้าข่ายกระทำความผิดด้วยการเข้ามาทำรีสอร์ตหรือประกอบธุรกิจในเชิงโรงแรม ซึ่งเป็นการนำที่ดินไปใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวงฯ ทั้งสิ้น 113 ราย แบ่งเป็นกลุ่มที่ทำผิดวัตถุประสงค์เล็กน้อย 82 ราย และทำผิดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน 30 ราย
ในกลุ่ม 30 รายนี้ได้มีการกระทำผิดอย่างชัดเจนจากการเปลี่ยนมือเจ้าของหรือมีการขายกิจการให้นายทุนต่างชาติ จึงจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายจนถึงที่สุด และเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้-ชุดพยัคฆ์ไพรได้ประกาศและดำเนินการรื้อถอน “ม่อนดอยลอยฟ้า” ซึ่งพบว่าครอบครองพื้นที่บุคคลอื่น และนำพยานให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการซื้อขายจริง
29 รายที่เหลือตามบัญชีรายชื่อรีสอร์ตที่ถูกระบุว่ามีความผิดตาม ม.25 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ นั้น จนถึง 30 ส.ค. 63 มีการดำเนินการรื้อถอนเอง-แจ้งขอเจ้าหน้าที่ช่วยรื้อถอน 5 ราย ประกอบด้วย รีสอร์ตไม่มีชื่อของนายนิคม ประดิษฐ์ ที่ถูกแจ้งว่าบุกรุกครอบครองเกินพื้นที่ที่แจ้งการครอบครอง ม่อนพอเพียง เนื้อที่ 1-1-60 ไร่, มายาแคมป์ปิ้ง เนื้อที่ 7-1-23 ไร่, รีสอร์ตไม่มีชื่อ ของนายชวลิต กับพวกรวม 5 ราย เนื้อที่ 0-3-68 ไร่ และแคมป์ไซอิ๋ว เนื้อที่ 1-1-00 ไร่ ซึ่งได้รื้อถอนเองแต่ยังไม่แล้วเสร็จ
และมีผู้ประกอบการที่ถูก รมต.กระทรวงทรัพย์ฯ สั่งยกอุทธรณ์ แต่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง 5 ราย ประกอบด้วย 1.“บ้านท่าจัน” เนื้อที่ 1 ไร่เศษ ถูกจับกุมเนื่องจากพื้นที่ไม่ตรงกับพื้นที่ที่แจ้งการครอบครองตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 แต่เจ้าของยืนยันครอบครองต่อเนื่องมาเป็นเวลา 60 ปี แต่ รมต.ทส.ได้ยกอุทธรณ์เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา เป็นคดีดำที่ 292/2563
2. ม่อนไอ เนื้อที่ 44 ตร.ว. ครอบครองเกินจากที่แจ้ง 3. ม่อนอิงดาว เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน ถูกแจ้งดำเนินการฐานครอบครองเกินจากที่แจ้ง 4. หลังสวนโฮมสเตย์ เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 62 ตร.ว. จับกุมเนื่องจากบุกรุก และ 5. ม่อนดาวเรือง เนื้อที่ 2-3-58 บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้ผ่อนผันให้ใช้ประโยชน์
ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ รมต.กระทรวงทรัพย์ฯ ได้สั่งยกอุทธรณ์ และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคำสั่งยกอุทธรณ์ คือ “ม่อนใจโฮมสเตย์” ที่ถูกแจ้งดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ ซึ่งมีการยืนยันว่าแจ้งการครอบครองตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 และทำประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ รมต.ยกอุทธรณ์เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 63 (ครบ 90 วัน 22 ก.ค. 63)
“ม่อนม่วน” ดำเนินการในนามบริษัทบ้านเพลินแสนดาว จำกัด เนื้อที่ 11-3-33 ไร่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าครอบครองเกินจากโฉนดที่ดิน ซึ่งแม้จะมีการยืนยันว่าซื้อที่ดินมา 4 แปลง แต่ รมต.ทส.สั่งยกอุทธรณ์เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 63 (ครบ 90 วัน 1 ส.ค. 63)
“ไร่นาย” เนื้อที่ 5 ไร่เศษ ถูกจับกุมเพราะบุกรุก แม้มีการขออุทธรณ์เมื่อ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่าครอบครองต่อเนื่องจากผู้ครอบครองมาก่อนหน้า-ที่ดินอยู่ในเขตกันออก แต่ไม่แสดงเอกสารจะขอต่อสู้ชั้นศาล รมต.ยกอุทธรณ์เมื่อ 30 เม.ย. ครบกำหนด 90 วัน 10 ส.ค. 63
“ม่อนจ้อ” ซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์ว่าเป็นพื้นที่ของเอกชนไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวน แต่ รมต.ทส.สั่งยกอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 63 จะครบ 90 วันในวันที่ 8 ก.ย.นี้, “ม่อนชาน” เนื้อที่ 4-0-32 ไร่ เจ้าหน้าที่แจ้งบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ได้ผ่อนผันให้ใช้ประโยชน์ และ รมต.ทส.ได้สั่งยกอุทธรณ์เมื่อ 20 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา, “ม่อนแสงระวี” เนื้อที่ 0-2-61 ไร่ ถูกดำเนินคดีฐานครอบครองเกินพื้นที่ที่แจ้งการครอบครอง และ รมต.ทส.สั่งยกอุทธรณ์ เมื่อ 19 ส.ค. 63, “ม่อนผาสุข” เนื้อที่ 2-0-52 ไร่ พื้นที่ที่ครอบครองไม่ได้อยู่ตามใบตอบรับ (แจ้งไว้ 7 แปลง) รมต.ทส.ยกอุทธรณ์
ขณะที่ “ม่อนแสนสิริจันทรา” เนื้อที่ 4-2-34 ไร่ แบ่งเป็น 2 แปลง แปลงแรกไม่อุทธรณ์ แปลงที่ 2 อุทธรณ์เกินกำหนด เนื่องจากรักษาตัวจากอาการป่วย แต่ยืนยันว่าได้พักอาศัยมากว่า 10 ปี ขอใช้เป็นที่อยู่อาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอ รมต.ทส.พิจารณาคำสั่งไม่รับอุทธรณ์, “แสงเหนือแคมป์ปิ้ง” ถูกแจ้งดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้ผ่อนผันให้ใช้ประโยชน อยู่ระหว่าง รมต.พิจารณาอุทธรณ์, “ภูเบิกฟ้าแคมป์ปิ้ง” เนื้อที่ 3-1-60 ไร่ และ “บ้านภูหมอก” ขณะนี้อยู่ระหว่างโต้แย้งสิทธิ ม.29-30 วิฯ ปกครอง, “ภูชวนหลง” เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อยู่ระหว่าง รมต.พิจารณาอุทธรณ์
“ม่อนซากุระ” ซึ่งไม่ระบุชื่อผู้ครอบครองและทำประโยชน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างส่วนจัดการที่ดินตรวจสอบว่ากรณีนี้จะให้ระบุว่าเป็นผู้ใด เช่นเดียวกับ “ภูเบิกฟ้าแคมป์ปิ้ง” ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบบุกรุกมีการครอบครองพื้นที่ แต่ไม่ระบุชื่อผู้ครอบครองและทำประโยชน์ตามการนำชี้แนวเขต จำนวน 3 แปลง ซึ่งส่วนจัดการที่ดินกำลังดำเนินการตรวจสอบ
“ม่อนดูดาว” ซึ่งพบว่าครอบครองเกินพื้นที่ที่แจ้ง อยู่ระหว่าง รมต.พิจารณาอุทธรณ์, “ม่อนเหนือ 1-2” พบครอบครองเกินพื้นที่ที่แจ้ง, “เบสท์แลนด์” ได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำความเห็นเสนอ รมต.ทส.พิจารณาคำสั่งไม่รับอุทธรณ์, “ระเบียงร้อยดาว” ที่พบว่าครอบครองเกินจากที่เจ้าของเดิม (บิดา) แจ้งการครอบครอง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำความเห็นเสนอ รมต. ส่วน “แสงอรุณแคมป์” ที่พบว่าบุกรุกพื้นที่ (ใบแจ้งการครอบครองเป็นชื่อบุคคลอื่น) และ “ม่อนวิวงาม” ที่พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาตามวิฯ ปกครอง ม.29, ม.30