กาญจนบุรี - โรงเรียนบ้านกุยแหย่ สั่งปิดเรียน 3 วัน ป้องกันโควิด-19 ระบาด หลังพบนักเรียน 3 คนใกล้ชิดต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ตรวจเจอไข้สูง เสี่ยงติดเชื้อ ขณะที่ สสอ.ทองผาภูมิ ส่งตรวจหาเชื้อ คาด 2 วันรู้ผล
วันนี้ (31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กโรงเรียนบ้านกุยแหย่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์ข้อความแจ้งให้ผู้ปกครองและนักเรียนทราบว่า โรงเรียนประกาศปิดเรียนเป็นการชั่วคราว รวม 3 วัน ว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีความเสี่ยงต่อนักเรียนโรงเรียนบ้านกุยแหย่
เนื่องจากมีบุคคลที่กลับจากต่างประเทศ (พม่า) ได้เข้ามาในประเทศไทยโดยผ่านช่องทางธรรมชาติ มิได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างถูกต้อง และเข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนและชุมชน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากบุคคลที่มีความเสี่ยง ทางโรงเรียนจึงแจ้งให้นักเรียนหยุดการเรียน ตั้งแต่วันที่ 1-3 กันยายน 2563 และขอให้นักเรียนป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากความเสี่ยง งดอยู่ในที่ชุมชน หรืองดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น “หมายเหตุ หากสถานการณ์ยังมีความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ทางโรงเรียนจะแจ้งให้ผู้ปกครองและนักเรียนทราบอีกครั้ง”
นอกจากนี้ ทางโรงเรียนบ้านกุยแหย่ ยังได้แจ้งคณะครูให้ทราบว่า ขณะนี้ได้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองมาประเทศไทย โดยผ่านช่องทางตามธรรมชาติ และฝ่ายปกครองของชุมชนร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ได้ดำเนินการควบคุมตัว และได้ดำเนินการวัดไข้ ปรากฏว่า มีไข้สูง จึงได้ส่งไปไปควบคุมโรคที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ โดยผู้ป่วยดังกล่าวได้ใกล้ชิดกับนักเรียน จำนวน 3 คน และได้ดำเนินการให้หยุดดูอาการ จำนวน 14 วัน
ในการนี้แจ้งครูทุกท่าน ร.ร.จะดำเนินการปิดเรียนจำนวน 3 วัน เพื่อเป็นการป้องกันสถานการณ์ดังกล่าว จนกว่าผลการตรวจจะยืนยันมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นผลดีไม่ติดเชื้อโควิด-19 ก็มาเรียนได้ตามปกติ แต่ถ้ามีเชื้อโควิด-19 จะแจ้งกับคณะครูทราบโดยทันที เพื่อร่วมหาแนวทางป้องกัน และร่วมมือกับทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้น ผู้อำนวยการได้รายงานด้วยวาจากับทางผู้บังคับบัญชาเรียบร้อยแล้ว และมีดำริว่าน่าจะปิดเรียนเพื่อเป็นการป้องกันนักเรียน ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ ได้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นเสนอผู้บริหาร ว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เวลา 15.15 น. งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ ว่า พบผู้ป่วยชายพม่า 2 ราย มีอาการไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส ให้ประวัติว่า เดินทางจากพม่า ข้ามมาทางช่องทางธรรมชาติ ผ่านแปลง 5 ตำบลห้วยเขย่ง มาพักอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 3 บ้านพุล่อ ตำบลลิ่นถิ่น ตรวจหาเชื้อมาลาเรียไม่พบเชื้อ จึงแจ้งเพื่อหารือการปฏิบัติเนื่องจากอยู่ในข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากประเทศเพื่อนบ้าน
การประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น ประเทศเพื่อนบ้านมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่าย และมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ การติดต่อจากคนสู่คนแบบใกล้ชิด หรือสัมผัสทางน้ำมูกน้ำลาย ไอหรือจาม ละอองฝอย ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายของโรค
มาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทีมตระหนักรู้ (SAT) คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับทีม CDCU อำเภอทองผาภูมิ ดำเนินการสอบสวนโรค ในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ระหว่างเวลา 15.20-16.00 น. ดำเนินงานขั้นต้น ดังนี้
1.ประสานการตรวจวินิจฉัยกับโรงพยาบาลทองผาภูมิ และการรับส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล ให้นอนโรงพยาบาล จำนวน 3 ราย เพื่อตรวจวินิจฉัยและเพาะเชื้อ
2.ประสานอาสาสมัครสาธารณสุข ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในละแวกบ้าน โดยพบว่า ในบ้านที่ผู้ป่วยทั้ง 3 คน พักอาศัย ยังมีเด็กอีก 3 คน เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประถมศึกษาปีที่ 4 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกุยแหย่ จึงได้ประสานโรงเรียนให้เด็ก 3 คนหยุดเรียนและกักตัวที่บ้าน 14 วัน วัดไข้ทุกวัน และสังเกตอาการผิดปกติ จนกว่าจะวินิจฉัยโรคได้ หรือชัดเจนว่าป่วยด้วยโรคอื่น
3.ชี้แจงสถานการณ์ มาตรการกับโรงเรียนบ้านกุยแหย่ ให้ทำ big cleaning ในวันที่ 1 กันยายน 2563 และสังเกตอาการเด็กร่วมชั้นเรียน ครู และนักเรียนทุกคน วัดไข้ทุกวัน และเน้นมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด 4.แจ้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ ให้ทำ big cleaning
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของผู้ป่วย ทางทีมแพทย์ได้เก็บตัวอย่างและจะส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันพรุ่งนี้ และจะทราบผลในวันพุธที่ 2 ก.ย.ที่จะถึงนี้
สำหรับโรงเรียนบ้านกุยแหย่ หมู่ที่ 2 บ้านกุยแหย่ ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอน 3 ระดับ คือ ระดับก่อนประถม ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 857 คน รวม 29 ห้องเรียน มี นายนิล โชคสงวนทรัพย์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีบุคลากรครู จำนวน 45 คน