พิษณุโลก - เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พร้อมพระชั้นผู้ใหญ่ ยอมรับคลิปเจ้าอาวาสฉาวเป็นเรื่องจริง-ตั้งคณะกรรมการสอบให้ชัดผิดพระธรรมวินัยถึงขั้นให้ปาราชิก-ห้ามบวชใหม่หรือไม่ เผยคนในคลิปดอดลาสิกขาแล้ว
วันนี้ (28 ส.ค. 63) พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระครูศรีสุธรรมมาภร รองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระปลัดบุญเรือง สุทธสีโร เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และนางสุปราณี คงสมพงษ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ร่วมแถลงข่าวที่สำนักเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กรณีมีการเผยแพร่คลิปฉาวของเจ้าอาวาสวัดเสพเมถุนชายหนุ่มในห้องเก็บของวัดกลางเมือง
เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกกล่าวว่า เจ้าอาวาสฯ ที่ปรากฏในคลิปเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับการแต่งตั้งจริง โดยได้เดินทางมาขอลาสิกขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องก็จะได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถ้าทำจริงก็ถือว่าผิดพระธรรมวินัยถึงขึ้นปาราชิกไม่สามารถกลับมาบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้อีก และจะตั้งคณะกรรมเข้าไปตรวจสอบดูแลทรัพย์สินภายในวัดอย่างเร่งด่วน
“ส่วนเรื่องของการซื้อบริการทางเพศนั้นก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล จะผิดกฎหมายหรือไม่ ก็ให้เป็นไปในเรื่องของกฎหมายทางโลก ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป”
พระครูศรีสุธรรมมาภร รองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และเป็นเจ้าอาวาสวัดมะขามเตี้ย กล่าวยอมรับว่าเป็นพระอุปัชฌาย์ให้เจ้าอาวาสที่ปรากฏในคลิปเอง เขาบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนาถึง 20 กว่าพรรษาแล้ว แต่พฤติกรรมเชิงลึกของเจ้าอาวาสรูปนี้ไม่เคยทราบมาก่อน เช้านี้ได้มาขอลาสิกขาที่วัดมะขามเตี้ย ดูสีหน้ารู้สึกว่าเป็นกังวลและมีความเครียด จึงบอกไปว่าอย่าเครียด จึงใช้เวลาลาสิกขาให้ประมาณ 15 นาที ก่อนเดินทางกลับไปโดยไม่ได้สอบถามรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความศรัทธาความเชื่อมั่นต่อผ้าเหลือง พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า วงการผ้าเหลืองก็คือพระที่บริสุทธิ์ ส่วนคนที่ทำเป็นเรื่องของบุคคลที่ไม่บริสุทธิ์ นั่นหมายถึงว่าขณะที่ห่มผ้าเหลืองประพฤติปฏิบัติดีก็คือผู้บริสุทธิ์ แต่ที่ทำไม่ดีก็คือไม่บริสุทธิ์หมายถึงต้องออกจากผ้าเหลือง ถ้าเรื่องของศรัทธา อย่างเรื่องของวัดนี้ เจ้าคณะ เจ้าอาวาสเป็นเพียงผู้แทน แต่จริงๆ วัดไม่ได้เสื่อม พระธรรมวินัยคำสอนพระพุทธเจ้าไม่ได้เสื่อม แต่เสื่อมที่ตัวบุคคลที่ประพฤติปฏิบัติเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากคลิปที่แชร์ว่าเป็นพระวัดดังซื้อบริการหรือให้เงินกับชายหนุ่มคนหนึ่งนั้น เบื้องต้นยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าคนที่ปรากฏในภาพนั้นเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ หรือมีการซื้อขายบริการกันจริงหรือไม่อย่างไร แต่ตามภาพปรากฏการให้เงินกันเท่านั้น
ในส่วนของตำรวจยังไม่มีการแจ้งความใดๆ ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งให้สายสืบเข้าไปหาข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมไว้กรณีหากมีผู้เสียหายมาแจ้งความหรือมีการทำละเมิดต่อกฏหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามีความผิดในฐานข้อหาอะไร ซึ่งภาพหลักฐานที่ปรากฏนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งตำรวจยังไม่เห็นหน้าว่าคนในภาพเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่
“สมมติว่ากรณีเป็นเด็กต่ำกว่า 18 ปี ทางพระมีความผิดแน่นอนในข้อหากระทำชำเราเด็ก ซื้อบริการเด็กก็ว่ากันไป อีกส่วนหนึ่งหากมีพ่อเล้าแม่เล้าติดต่อเป็นนายหน้าก็จะผิดในเรื่องของการเป็นธุระจัดหา ตอนนี้กำลังรวบรวมจากหลายทิศทางว่าพระสึกหรือยัง อยู่ที่ไหน ต้องประสานกับทางสำนักพุทธศาสนา และพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ”
ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลกกล่าวอีกว่า ต้องเตรียมข้อมูลไว้เพราะเป็นวัดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในจังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้นตามกฎหมายพระอาจจะเป็นผู้เสียหายก็ได้ เนื่องจากถูกหลอกถ่ายวิดีโอ หรือแอบถ่าย ซึ่งจริงๆ การโพสต์คลิปสื่อลามกก็เป็นความผิดตามกฏหมายอยู่แล้ว หรือบางทีตามที่ปรากฏมันเป็นคลิปเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งอาจจะมีการเจรจาต่อรองกันเรื่องเงินทองก็ได้
“เขาอาจจะเป็นคู่รักกันอยู่แล้ว อาจจะมีการเลิกรากันต่อรองกัน จนคุยกันไม่ได้จึงโพสต์คลิป มันเป็นไปได้หลายกรณี ส่วนประเด็นคุกคามขู่ฆ่าก็อยู่ที่ตัวของคนโพสต์ที่อ้างว่าถูกขู่ฆ่า หากมาแจ้งความก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”