เชียงราย - คณะทำงานฯ สั่งขยายพื้นที่คุมเข้ม 4 อำเภอชายแดนเชียงรายสกัดต่างด้าวเข้าเมือง หลังโควิดระบาดพม่าซ้ำรอบ 2 พบคนตกค้างคิงส์โรมัน-เขตเศรษฐกิจฯ สามเหลี่ยมทองคำ จ่อลอบเข้าไทยนับหมื่น
วันนี้ (27 ส.ค.) นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานป้องกันไวรัสโควิด-19 จ.เชียงราย ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อวางแผนรองรับกรณีมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศพม่าจนต้องล็อกดาวน์ทั้งประเทศ
นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่า กระทรวงสาธารณสุขของประเทศพม่าแจ้งเป็นทางการว่ามีตัวเลขสะสมผู้ติดเชื้อในพม่าจำนวน 574 ราย เสียชีวิต 6 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นนับ 100 ราย อย่างไรก็ตาม กรณีรัฐฉานที่ติดกับ จ.เชียงราย และภาคเหนือยังไม่พบผู้ป่วยใหม่ ตัวเลขผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิดยังคงอยู่ที่ 3 ราย แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้มงวด สุ่มตรวจผู้คนตามแนวชายแดนเผื่อกรณีมีการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านครั้งละ 50 ราย ตลอด 2 เดือนมานี้ ประมาณ 2-3 ครั้งก็ยังไม่พบเชื้อ
ด้าน พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ ผู้แทนผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมากองกำลังผาเมืองได้จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาตามช่องทางต่างๆ เขตชายแดนเชียงราย-เชียงใหม่ รวม 106 ครั้ง ผู้ต้องหา 332 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า
ปัจจุบันได้สกัดกั้นตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น วางกำลังทั้งใน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่มีพรมแดนติดกับประเทศพม่า ติดตั้งกล้องวงจรปิด บินโดรนถ่ายภาพกลางคืน ติดตั้งไฟส่องสว่างแบบโซลาร์เซลล์ ฯลฯ แต่ก็พบว่ายังมีผู้ลักลอบเข้าเมืองต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 23 มี.ค.-26 ส.ค.สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผ่านชายแดนเชียงรายได้ 56 ครั้ง ผู้ต้องหา 147 ราย เป็นชาวพม่า 79 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย
สำหรับผู้ที่ข้ามชายแดนเข้ามานั้น หากเป็นคนไทยเข้ามาโดยถูกกฎหมายจะนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่โรงแรมในเขต อ.เมืองเชียงราย หรือ Local Quarantine แต่หากผิดกฎหมายจะกักตัวที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย แต่ถ้าเป็นชาวต่างด้าวจะผลักดันกลับทั้งหมด
รองผู้ว่าฯ เชียงรายกล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การระบาดรอบ 2 ในประเทศพม่า แม้ส่วนใหญ่จะอยู่ห่างไกลถึงรัฐยะไข่ แต่ก็มีดินแดนติดต่อกัน ดังนั้น ทาง จ.เชียงรายจึงต้องกลับมาเข้มงวดอีกครั้ง และให้ขยายพื้นที่จากเดิมที่กองกำลังผาเมืองเน้น 3 อำเภอชายแดน คือ แม่ฟ้าหลวง แม่จัน แม่สาย ก็ขยายไปถึง อ.เชียงแสน เพราะมีลำน้ำสาย-ลำน้ำรวกที่ติดต่อกันไปถึงแม่น้ำโขง
และให้นายอำเภอทุกอำเภอได้ประสานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กลับมาร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจต่างๆ อีกครั้ง รวมทั้งตรวจสอบคนในหมู่บ้านชุมชนว่ามีผู้คนแปลกปลอมเข้ามาด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกันก็จะมีการติดตามสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดหากพบมีการระบาดมากก็จะสกัดกั้นให้ถึงที่สุดต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ ทาง อ.เชียงแสนได้แจ้งว่าเคยมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งนำพาต่างด้าวเข้าชายแดนติดลำน้ำรวกไทย-พม่า ตรงบ้านวังลาว ต.เวียง ซึ่งได้ไล่ออกไปแล้ว แต่ฝั่งตรงข้ามสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ต.เวียง ยังมีคนตกค้างอยู่ในโครงการคิงส์โรมัน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เกือบ 10,000 คน ซึ่งกลุ่มคนตกค้างเหล่านี้ต้องการลักลอบข้ามมายังฝั่งไทย โดยยอมให้จับกุมเพื่อหวังจะกลับประเทศตัวเองเป็นจำนวนมาก เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาจับกุมผู้ลักลอบข้ามมาได้แล้ว 18 ราย