ประจวบคีรีขันธ์ - จับหลานชายปาระเบิดใส่ห้องนอนตา เป็น ส.อบต.ร่อนทอง พังยับเยิน ผู้การประจวบฯ เผยคาดปัญหาในครอบครัว พร้อมสั่งตรวจหาที่มาของระเบิดคาดสั่งซื้อออนไลน์
วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ณัฐพล ทับทิม สารวัตรสอบสวน สภ.บางสะพาน ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดภายในห้องนอน เลขที่ 310/3 ม.3 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นายเสริม ชุนเชย อายุ 68 ปี เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง (ส.อบต.) ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งลูกสาวได้พาส่งโรงพยาบาลบางสะพาน และส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหินแล้ว
จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.สภ.บางสะพาน และ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ทราบแล้วรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD. ค่ายพระมงกุฎเกล้า (ตชด.14) ตำรวจพิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนแบบชั้นเดียวขนาด 3 ห้องนอน ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 50 เมตร ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบริเวณห้องนอนเล็ก ชิ้นส่วนกระจกหน้าต่างแตกเสียหาย ภายในห้องพังยับเยินจากแรงระเบิด ตั้งแต่ฝ้าเพดานที่พังถล่มลงมา ผนังห้องมีรอยทะลุเป็นรูจากแรงระเบิด ส่วนเตียงนอนและภายในห้องส่วนอื่นก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการตรวจสอบพบสลักระเบิดตกอยู่บริเวณพุ่มไม้ข้างบ้าน โดยยังไม่ทราบชนิดของระเบิดลูกดังกล่าว และตรวจพบชิ้นส่วนกระเดื่องตกอยู่ใต้ซากตู้เสื้อผ้า และสะเก็ดระเบิดชิ้นเล็กชิ้นน้อย จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม น.ส.วนิดา ชุนเชย บุตรสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ตนตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงระเบิด จึงได้รีบออกจากห้องนอนมาดู จึงได้ยินเสียงพ่อร้องเรียกให้ช่วย
สภาพพ่อได้รับบาดเจ็บมีแผลตามตัวเป็นแผลขนาดเล็กเต็มไปหมด แม้จะเจ็บแต่พ่อมีสติดีบอกให้ตนพาไปส่งโรงพยาบาล ตนจึงรีบขับรถพาพ่อไปส่งโรงพยาบาลบางสะพานทันที โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี พ่อป่วย จึงได้ย้ายมานอนห้องนอนที่เกิดเหตุ และรักษาตัวต่อเนื่องจนอาการดีขึ้น ขณะนี้ครอบครัวยังสับสนกว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ แต่มั่นใจว่า ไม่ใช่ประเด็นชู้สาวอย่างที่มีการพูดถึงอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในคดีนี้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมบ้านของผู้ต้องสงสัย บ้านเลขที่ 16/7 ม.2 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ปลูกอยู่ด้านหลังบ้านที่เกิดเหตุ
โดยปิดล้อมอยู่นานประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเกลี้ยกล่อมออกมามอบตัวสำเร็จ ในสภาพพูดจาไม่รู้เรื่อง ทราบชื่อคือ นายนภัทร จันทร์สุภา หรือตูน อายุ 23 ปี พบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และลูกกระสุน 6 นัดที่อยู่ในรังเพลิง และยังพบ นายภาศกร อ่วมพยับ อายุ 23 ปี เพื่อนของนายตูน แอบซ่อนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย
ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ว่า นายนภัทร นำมาจากที่ไหน เบื้องต้นคาดว่าจะสั่งซื้อทางออนไลน์ ส่วนระเบิดลูกดังกล่าวจะเป็นระเบิดชนิดใดนั้น ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน
โดยได้สั่งให้ตรวจสอบเฟซบุ๊กส่วนตัว และโทรศัพท์มือถือของนายนภัทร พบว่า มีการโพสต์เรื่องราวล่าสุดเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว และกล่าวอ้างว่ามีปัญหาส่วนตัวกับตา ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ และพาดพิงถึงแฟนสาวที่พักอาศัยอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานีด้วย และมีบางโพสต์ระบุว่าถูกของเข้า และมีการโพสต์ถึงระเบิดลูกเกลี้ยง
ทางด้าน นายภาศกร เพื่อนของนายตูน ให้การต่อเจ้าหน้าที่เบื้องต้นว่า วานนี้ นายนภัทร ขี่รถจักรยายนต์ไปรับมาตนจากบ้าน เพื่อมาเสพยากัน กระทั่งเช้ามืดนายนภัทร เดินออกจากบ้านไปไม่นานได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวที่นอกบ้าน จากนั้น นายนภัทร ได้วิ่งกลับเข้ามาในบ้านแล้วถืออาวุธปืนอยู่ในมือตลอดเวลา ด้วยความตกใจกลัว ตนไม่กล้าออกจากบ้าน ได้แต่เข้าไปแอบซ่อนตัว จนกระทั่งมีตำรวจมาปิดล้อมบ้านไว้ เมื่อได้จังหวะจึงวิ่งหนีออกมาดังกล่าว
ส่วนนายนภัทร เมื่อควบคุมตัวได้แล้ว มีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง ดิ้นรน และเกร็งตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำมาพักสงบสติอารมณ์ที่โรงพยาบาลบางสะพาน ทั้งนี้ นายนภัทร เคยมีประวัติเข้ารักษาตัวเนื่องจากเสพยาปริมาณมาก และต้องกินยาควบคุมอาการ โดยอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายเสริม ชุนเชย พ้นขีดอันตรายแล้ว โดยแพทย์ได้ผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดตามตัวออก แต่ยังต้องดูอาการใกล้ชิด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป