บุรีรัมย์ - “ไอ้เฒ่าหื่น” วัย 65 ปี อ้างข่มขืน ด.ญ.พิการ วัย 14 ปี จนท้อง 7 เดือน เป็นการลงโทษที่เด็กขโมยเงินไม่อยากทุบตีเพราะสงสารและไม่ได้บังคับแต่เด็กยินยอมเองเหตุอยากได้เงิน ด้านเมียโต้ทั้งน้ำตาไม่เคยขู่คู่กรณีผัวยอมรับสารภาพและรับผิดชอบ ตำรวจเผยแจ้ง 3 ข้อหาหนัก สรุปคดีส่งฟ้องอัยการแล้ว
วันนี้ (26 ส.ค. 63) ความคืบหน้ากรณีที่ครอบครัวหนึ่งใน ต.เมืองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีที่ ด.ญ.เอ หลานสาววัย 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการทางสมอง (ออทิสติก) ถูกนายชัย อายุ 65 ปี ผู้สูงอายุในหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนกระทำชำเรา จนตั้งท้องได้ 7 เดือน จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายชัยยอมรับว่าได้กระทำจริง และนายชัยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน แต่นายชัยถูกปล่อยตัวชั่วคราว และมีคนได้ยินว่านายชัยไปพูดบอกชาวบ้านว่า “ไม่กลัว ทำกับคนพิการแล้วไม่มีความผิด” และใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ครอบครัวผู้เสียหายกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมยืนยันให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำให้ถึงที่สุด เพราะหลานเป็นเด็กพิการ ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายชัย ผู้ต้องหา พบนายชัยอยู่ที่บ้านกับ นางสวย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยา จากการสอบถามนายชัยยอมรับสารภาพว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอจริง แต่ไม่ได้มีการบังคับหรือให้เงินเพื่อให้เด็กยอมนอนด้วยตามที่เป็นข่าว แต่ที่ผ่านมาเด็กจะมาเล่นกับหลานของตนเองที่บ้านบ่อย แล้วจะชอบเข้าไปลักขโมยเงินในบ้าน จึงบอกว่าห้ามขโมยอยากได้ให้ขอเอา จากนั้น ด.ญ.เอก็เข้ามาขอเงินเรื่อยๆ ตนก็ให้ไปครั้งละ 20 บาทบ้าง 120 บ้าง บางครั้งมาขอซื้อรองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋าครั้ง 300-400 บาทก็มี จนเด็กได้ใจจะเข้ามาขอเงินและขอของกินที่บ้านอยู่เรื่อยๆ
ทั้งยังอ้างว่าที่ตนเองล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ เพราะเด็กยินยอมเองไม่ได้บังคับ เนื่องจากเด็กอยากได้เงิน แต่ยอมรับว่าสิ่งที่ทำลงไปผิด ซึ่งหลังจากเรื่องแดงก็มีการไกล่เกลี่ยขอเยียวยาและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฝั่งผู้เสียหายไม่ยอมได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดี ตนก็เข้าไปมอบตัวและยอมรับสารภาพตั้งแต่แรกไม่ได้หลบหนีหรือปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่เคยไปข่มขู่หรือพูดเยาะเย้ยฝั่งผู้เสียหายเลย ก็รอให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ขณะที่ นางสวย ภรรยานายชัย ผู้ต้องหา ออกมาพูดทั้งน้ำตาว่า สามียอมรับผิดและเข้ามอบตัวตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งจากการสอบถามสามียอมรับว่าทำจริง สาเหตุเพราะต้องการลงโทษที่เด็กไปขโมยเงิน ไม่อยากทุบตีเพราะสงสาร กะว่าจะทำโทษเพียงครั้งเดียวให้เข็ดหลาบ แต่เด็กก็ยังเข้ามาหาสามีของตนอีกเรื่อยๆ ซึ่งตอนแรกตนไม่รู้เรื่องกระทั่งเด็กตั้งท้อง 5 เดือน จึงรู้เรื่องแต่ก็ยอมรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้นสามีก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน
ส่วนที่อีกฝ่ายอ้างว่าตนกับสามีไปพูดเยาะเย้ยหรือบอกว่าเส้นใหญ่นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง สามีทำผิดก็ยอมรับผิดแล้ว ตอนนี้รอไปตามที่ศาลจะเรียกตัว ก็อยากให้เห็นใจทางฝั่งตนเองด้วย เพราะหลังจากเกิดเรื่องเครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง ให้ข้อมูลว่า ทางผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2563 กล่าวหาว่าถูกนายชัย (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุในหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง จนตั้งท้องได้ 5 เดือนช่วงที่แจ้งความ จากนั้นวันที่ 5 ก.ค. นายชัยที่ถูกกล่าวหาได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายชัยยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการข่มขืนกระทำชำเราเด็กจริง เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร” หลายกรรมต่างกัน จากนั้นได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย และผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งอัยการแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมตัวผู้ต้องหา
ส่วนกรณีที่ไม่ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหานั้น เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเองและไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากสรุปสำนวนส่งอัยการแล้วขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอัยการที่จะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่อย่างไร ด้านพนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามกระบวนการขั้นตอนแล้วไม่ได้มีความล่าช้าแต่อย่างใด แต่หากทางญาติหรือผู้เสียหายถูกคู่กรณีข่มขู่คุกคามสามารถแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้