xs
xsm
sm
md
lg

ลุงนักดนตรีทรัมเป็ตรุ่นเก๋าวัย 63 สู้ทำมาหากิน ว่างงานแสดงขับกระบะตระเวนรับซื้อของเก่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ลุงนักดนตรีทรัมเป็ตคณะรำวงดังวัย 63 ปีไม่อายทำกิน ขับกระบะคู่ชีพตระเวนรับซื้อของเก่าช่วงว่างเว้นงานแสดงเพื่อหารายได้เสริม เผยทำมากว่า 10 ปีแล้ว รับสภาพโควิด-19 ทำเดือดร้อนหนัก แต่ยังพร้อมสู้ไม่มีถอย


รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่บ้านหนองสี่แจ่ง ตำบลหนองแฝก อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง ชาวบ้านต่างคุ้นชินและพบเห็นมานานกว่า 10 ปีแล้วกับภาพที่ชายวัย 60 กว่าปีขับรถกระบะเก่าๆ เพียงลำพัง พร้อมประกาศผ่านลำโพงขยายเสียง ตระเวนไปทั่วตามเส้นทางในหมู่บ้านเพื่อรับซื้อของเก่าตามบ้านเรือน ทั้งขวดแก้ว, พลาสติก, กระดาษ, เศษเหล็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียแล้ว รวมทั้งของเก่าต่างๆ ซึ่งชาวบ้านต่างทราบดีด้วยว่าชายคนนี้นอกจากการออกรับซื้อของเก่าแล้ว ยังมีอาชีพหลักเป็นนักดนตรีทรัมเป็ตฝีมือฉกาจประจำคณะบัวแดงที่เป็นคณะรำวงประยุกต์ชื่อดังตั้งแต่อดีตของเชียงใหม่อีกด้วย


ทั้งนี้ จากการสอบถามทราบว่านักดนตรีรุ่นเดอะที่ใช้เวลาช่วงว่างเว้นจากงานแสดงของคณะรำวงออกมาขับรถกระบะตระเวนรับซื้อของเก่าเพื่อหารายได้เสริม คือ นายอนันต์ ศรีคำ หรือลุงป๋อง อายุ 63 ปี ชาวบ้านหนองสี่แจ่ง ซึ่งเปิดเผยว่าอาชีพหลักเป็นนักดนตรีทรัมเป็ตของคณะบัวแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรำวงชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดเริ่มต้นการเป็นนักดนตรีทรัมเป็ตมาจากการที่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบต้องออกไปช่วยพ่อที่มีอาชีพขายเนื้อควายที่ตลาดบ้านปากกอง อำเภอสารภี ทุกเช้า และพ่อจะให้ตนเองคอยเป่าเขาควายเพื่อเป็นเสียงสัญลักษณ์เรียกลูกค้า ประกอบกับต่อมาที่โรงเรียนมีงานรื่นเริงและจัดรำวง พอดีเห็นทรัมเป็ตวางอยู่ จึงแอบนำมาทดลองเป่าและมีเสียงดังออกมา ทำให้รู้สึกชอบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งอายุประมาณ 14-15 ปีได้ไปทำงานในคณะลิเก และหัวหน้าคณะเห็นแววในการเป่าทรัมเป็ต จึงไปซื้อทรัมเป็ตมือสองในราคา 250 บาทมาให้ฝึกฝนด้วยตัวเองจนกระทั่งชำนาญ เริ่มจากเพลง "อย่ามือบอน" ของสังข์ทอง สีใส และอีกหลายเพลง ทั้งๆ ที่อ่านตัวโน้ตไม่เป็น แต่ใช้วิธีฝึกจากการฟังและจำจังหวะ จากนั้นได้ยึดเป็นอาชีพมาตลอด


สำหรับรายได้จากการเป็นนักดนตรีทรัมเป็ตนั้น ลุงป๋องบอกว่า หากมีการจ้างงานจะได้รับค่าตอบแทนคืนละ 800 บาท ซึ่งนอกจากการทำอาชีพนักดนตรีแล้ว ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาตนยังได้ทำอาชีพรับซื้อของเก่าควบคู่กันไปด้วยเพื่อหารายได้เสริม โดยในช่วงกลางวันที่ว่างเว้นจากงานเล่นดนตรีจะขับรถตระเวนไปตามหมู่บ้านแล้วนำไปส่งขายต่อร้านรับซื้อรายใหญ่ ได้ส่วนต่างวันละประมาณ 300-400 บาท ซึ่งที่ผ่านมาสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ดีตามสมควร และช่วยกับภรรยาที่ทำอาชีพรับจ้างเย็บปักถักร้อย ส่งเสียลูกสาวคนเดียวจนเรียนจบระดับปริญญาตรี อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง ทั้งจากการรับซื้อของเก่าที่ลดลงเหลือเพียงวันละ 100-200 บาทเท่านั้น แต่ตนยังคงออกรับซื้อตามปกติ เช่นเดียวกับงานเล่นดนตรีที่แทบไม่มีการจ้างงานเลย ถึงเวลานี้มีเพียงงานเดียวที่ได้รับเชิญไปเป่าทรัมเป็ตในงานประกวดเครื่องเสียง ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 6 ก.ย. 63 ซึ่งยอมรับว่ารายได้ที่ลดลงทำให้เดือดร้อนพอสมควรเพราะยังมีภาระค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม โดยหากผู้ใดสนใจจ้างงานสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-9757-1564 ส่วนโซเชียลมีเดียนั้นเล่นไม่เป็น








กำลังโหลดความคิดเห็น