โร่แจ้งความเจ้าของร้านอาหารดัง โดนหนังสติ๊กถล่มลูกค้าหนีกระเจิง

MGR Online - เจ้าของร้านอาหารสาวใน จ.ปราจีนบุรี สุดเซ็ง ร้านข้างๆ แสบแอบยิงหนังสติ๊กบรรจุหิน เล็งใส่ร้านนับครั้งไม่ถ้วนนาน 3 เดือน เหตุบาดหมางเรื่องเล่นดนตรีเสียงดัง พ้อทำมาหากินสุจริตแต่โดนแกล้ง

วันนี้ (16 ส.ค.) นางปรียะนันท์ สิงหะแสนยาพงษ์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหาร “สะเหล่อ@บ้านโคก” ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ยุทธภูมิ ดำรงธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี เพื่อดำเนินคดีต่อนายเอ (นามสมมติ) เจ้าของร้านอาหารตามสั่งใกล้เคียง กรณีนำหนังสติ๊กยิงหินใส่ในร้าน เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์ขึ้นหลายครั้งแต่จับมือใครดมไม่ได้

นางปรียะนันท์กล่าวว่า ตนและครอบครัวเปิดร้านอาหารดังกล่าวได้ประมาณ 3 ปี โดยเช่าพื้นที่ว่างเปล่าของโครงการเพลินไพลิน ที่ดินบริเวณข้างร้านในตอนแรกว่างเปล่า ต่อมาโครงการได้จัดสรรสร้างเป็นล็อกไว้เช่าขายของ ได้มีผู้มาเช่าเปิดร้านต่างๆ นายบี (นามสมมติ) ได้มาเช่าเปิดเป็นร้านน้ำแข็งและสินค้าเบ็ดเตล็ด และให้หลานชาย คือ นายเอ ขายอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยว เมื่อประมาณต้นปี 2563

ในช่วงแรกนายบีได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจที่ร้านอาหารของตน โดยอ้างว่าเล่นดนตรีเสียงดังทำให้นอนไม่หลับ เนื่องจากทางร้านมีดนตรีเล่น 3 ชิ้น แต่อยู่ภายใต้กติกาของกฎหมาย ดนตรีจะเลิกเล่นเวลา 23.30 น. หากมีจัดงานเลี้ยงด้วยจะเลิกเล่นเวลา 24.00 น. ตนได้ขอใบอนุญาตครบหมดทุกอย่าง ดำเนินกิจการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนเกิดเหตุมีเสียงดังปั้งบนหลังคาร้านซึ่งเป็นเมทัลชีต ตนคิดว่าเป็นเสียงกิ่งไม้หล่นใส่จึงไม่สังเกตอะไร

ต่อมาเกิดเสียงลักษณะเดียวกันอีกและถี่ขึ้น ลูกค้าเดินมาบอกว่าเป็นลูกหินยิงมาถูกขา ตนเริ่มเอะใจแต่ปล่อยผ่านไปเพราะคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือคนเมาที่สัญจรผ่านไปมา เสียงดังบ่อยขึ้นรวมได้ประมาณ 8 ครั้ง นักดนตรีที่กำลังบรรเลงอยู่และเด็กร้านก็ถูกลูกหินดีด กระทั่งเวลา 21.00 น.วันที่ 14 ส.ค. มีเสียงดังเกิดขึ้นจนลูกค้าตกใจและขอเช็กบิลกลับบ้านเกือบหมดเนื่องจากกลัวอันตราย ตนจึงให้แฟนและเด็กร้านไปแอบซุ่มมองด้านหลังร้าน

จากนั้นเวลา 23.00 น. พบนายเอกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ด้านหลังร้านอาหารตามสั่ง และยิงลูกหินจากหนังสติ๊กมายังร้านตน รีบวิ่งตามไปนายเอก็ได้หนีเข้าห้องนอน แฟนตนได้เรียกให้ออกมาพูดคุยกัน นายเอออกมาพร้อมยอมรับผิดและขอโทษ ตนตัดสินใจเข้าแจ้งความดังกล่าวเพราะไม่รู้วันข้างหน้าจะเกิดเหตุการณ์อีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวประมาณ 9 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบหลังคามีรอยบุบจากลูกหิน หลอดไฟหลังร้านแตก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่สำคัญร้านเสียชื่อเสียงเกิดความเสียหายทางธุรกิจ ตนอยากฝากเตือนผู้ก่อเหตุ หรือผู้ที่คิดจะแกล้งคน ตนเปิดร้านถูกต้องตามกฎหมาย ทำมาหากินด้วยความสุจริต ทำไมต้องมาแกล้งกันขนาดนี้ จนลูกค้ากลัวไม่กล้าเข้าร้าน สูญเสียรายได้ การกระทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย หรืออาจทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย