ระยอง - รวบแล้ว! ไอ้โหดแทงยับเจ้าของร้านขายของชำเมืองระยองพร้อมน้องเมีย ดับ 1 สาหัส 1 อ้างถูกขว้างมีดใส่จนบันดาลโทสะ ด้าน ผบช.ภ.2 เข้าปลอบขวัญครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อยยกเลิกทำแผนเหตุชาวบ้านรอเพียบหวั่นเกิดเหตุรุนแรง
จากเหตุการณ์คนร้ายเมืองระยองใช้อาวุธมีดแทงยับเจ้าของร้านขายของชำ วัย 62 ปี พร้อมน้องเมีย ดับ 1 สาหัส 1 เหตุเกิดในห้องแถวให้เช่าที่ปลูกติดกันใน ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุเจ้าของร้านน่าจะขัดขืนจนถูกทำร้าย แต่ยังโชคดีที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีได้นั้น
วันนี้ (13 ส.ค.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้นำตัว นายชูชาติ ประคำ อายุ 25 ปี หนุ่มโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนบริเวณด้านหน้า สภ.เมืองระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง
พร้อมบอกว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง นายยุทธพงษ์ พลกุล อายุ 62 ปี เจ้าของร้านขายของชำจนเสียชีวิต และยังใช้อาวุธมีดแทง นางทองอยู่ สุวรรณ อายุ 58 ปี จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักในอพาทร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และ รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กม 8951 ระยอง หมวกกันน็อก เสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมทั้งอาวุธมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ
ขณะที่ นายชูชาติ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง โดยขณะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านร้านขายของชำจุดเกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ได้เกิดน้ำมันหมดจึงหยุดแวะเติมน้ำมันแต่ไม่มีเงิน จึงบอกกับผู้ตายว่าจะกลับไปเอาเงินมาให้แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง
โดยผู้ตายได้ใช้มีดขว้างเข้าใส่จนทำให้บันดาลโทสะหยิบมีดเล่มดังกล่าวจ้วงแทงไปหลายครั้ง ก่อนจะมีผู้หญิงเข้ามาช่วยจึงแทงผู้หญิงคนดังกล่าวด้วย จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปที่ห้องพักและได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุได้โยนทิ้งหลังห้องพัก
จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับภรรยากลับมาห้องพักตามปกติและยังเตรียมวางแผนที่จะหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาจับกุมได้ก่อน
พล.ต.ท.มนตรี ยังเผยอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่าเพิ่งถูกไล่ออกจากงานเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงิน ประกอบกับถูกผู้ตายด่าทอจึงลงมือก่อเหตุ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่สถานการณ์โควิด-19 ได้ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนในชีวิตความเป็นอยู่
และยังได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมให้ช่วยสนับสนุนการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้ายได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังการแถลงข่าวแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านขายของชำจุดเกิดเหตุ แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากมีประชาชนมารอดูจำนวนมากจึงเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย
โดย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 ได้เดินทางไปมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือแก่ นางสมศรี พลกุล ภรรยาของผู้เสียชีวิต และนางทองอยู่ ผู้ได้รับบาดเจ็บแทน