เชียงใหม่ - ผู้ใหญ่บ้านสันทราย ขึ้นโรงพักให้ถ้อยคำยันความบริสุทธิ์ กรณีถูกพาดพิงในคลิปคล้องตะกรุดไก่ใช้ล่อเป้าปืน แจงเป็นภาพเก่า 3 ปีก่อนถ่ายที่พม่า เพียงแค่ร่วมในเหตุการณ์ไม่ใช่คนยิง ปรึกษาทนายจ่อแจ้งความเพจเผยแพร่
กรณีวานนี้ (12 ส.ค. 63) เพจ “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand-WDT” โพสต์คลิประบุว่าผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้กระทำทารุณกรรมสัตว์ ด้วยการเอาตะกรุดคล้องคอไก่แล้วใช้เป็นเป้าซ้อมยิง โพสต์ดังกล่าวมีการแชร์และผู้เข้าแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ใหญ่บ้านที่ถูกระบุถึง คือ นายกัมปนาท มณีศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านทุ่งยาว ตำบลสันทรายหลวง ที่ยอมรับว่าปรากฏตัวในคลิป แต่ไม่ใช่คนยิงและคลิปดังกล่าวถ่ายในประเทศพม่าเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายกัมปนาท มณีศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านทุ่งยาว พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันยืนยันความบริสุทธิ์ และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับเพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand-WDT ที่ทำให้เสียหาย ทั้งนี้ นายกัมปนาทบอกว่า ยอมรับว่าในคลิปภาพดังกล่าวมีตัวเองปรากฏร่วมอยู่ด้วย แต่ตัวเองไม่ใช่คนที่ยิงปืน พร้อมชี้แจงว่าคลิปดังกล่าวถ่ายเมื่อนานมาแล้วประมาณ 3 ปีก่อน และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝั่งประเทศพม่าเห็นได้จากทะเบียนรถที่ปรากฏในคลิป
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ตัวเองได้เดินทางไปทำธุระและหาเพื่อนทางฝั่งพม่า เจ้าของบ้านที่เป็นคนที่รู้จักทางฝั่งโน่นจะฆ่าไก่เพื่อปรุงเป็นอาหารเลี้ยงและจะทำการลองของขลังด้วย ทั้งนี้ ตัวเองไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการใช้ปืนยิงไก่ จึงเหมือนตกกระไดพลอยโจนและเลี่ยงไม่ได้ตามมารยาท ย้ำว่าไม่มีเจตนาจะทารุณสัตว์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงต่อนายอำเภอสันทรายทราบแล้ว และไม่เข้าใจเหตุผลที่มีผู้นำคลิปมาเผยแพร่ พร้อมพยายามเชื่อมโยงเข้ากับกรณีของหม่อมถนัดแดก ซึ่งทำให้ตัวเองได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยนอกจากการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ถ้อยคำยืนยันความบริสุทธิ์แล้ว กำลังปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและได้สอบถามเบื้องต้นกับทางผู้ใหญ่บ้าน และได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ควบคู่กับการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทางผู้ใหญ่บ้านได้เข้าให้ถ้อยคำ โดยย้ำว่าจะต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิดและดำเนินการตามกฎระเบียบ
ส่วนในกรณีที่หากผู้ใหญ่บ้านพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ และรู้สึกว่าเสียหายจากผู้เผยแพร่คลิปดังกล่าวนั้น การจะดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาตัดสินใจของผู้ใหญ่บ้าน