อุบลราชธานี - ตำรวจบ้านเจอตำรวจจริง อ้างจะรีบไประงับเหตุทั้งที่เจ้าตัวมีอาการเมา ถูกจับตรวจแอลกอฮอล์พบมีปริมาณเกินกว่ากฎหมายกำหนด และยังค้นเจอปืนเถื่อน เลยเจอตั้ง 6 ข้อหาหนัก ด้านเจ้าตัวไม่ยอมเสียหน้า ขอรับสารภาพบางข้อกล่าวหา
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (12 ส.ค.) ขณะ ร.ต.อ.พิพัฒน์ โคตธิสาร รองสารวัตรปราบปรามปฏิบัติหน้าที่ตำรวจราจร สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นำกำลังตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์บนทางหลวงหมายเลข 217 หน้าธนาคารออมสินภาค 12 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ พบนายประสิทธิ์ แก้วสีใส อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 บ้านแดง หมู่ 3 ต.สะพือ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ขับรถยนต์นิสสัน สีชมพู ทะเบียน กอ 6179 อุบลราชธานี เข้ามาในด่านตรวจ โดยแต่งกายเครื่องแบบตำรวจสายตรวจ จึงขอตรวจดูบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ
ปรากฏว่านายประสิทธิ์ไม่มีบัตรแสดงและอ้างว่ากำลังรีบจะไประงับเหตุด่วนเหตุร้ายที่ได้รับแจ้ง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุเกิดอยู่ที่ใด และระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านพูดคุยซักถามนายประสิทธิ์ก็แสดงอาการคล้ายคนเมาสุรา
จึงขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 110 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และทำการตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์และกระสุนปืน 1 กระบอก วิทยุสื่อสาร หมวกตำรวจสายตรวจ กุญแจมือ
หลังจากนั้นได้นำตัวนายประสิทธิ์มาสอบสวนที่สถานีตำรวจ เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นอาสาตำรวจบ้าน มักจะขับรถตระเวนตรวจตรารักษาความสงบไปตามพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบเพียงคนเดียวเป็นประจำ ส่วนอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ได้มาจากการตรวจยึดมาจากกลุ่มวัยรุ่นเมื่อหลายวันก่อน
เบื้องต้นตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อหานายประสิทธิ์รวม 6 ข้อหา คือ ขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุรา มีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ใช้เครื่องวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในบางข้อหา จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
รวมทั้งหากมีผู้เสียหายรายใดเคยถูกนายประสิทธิ์ไปแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วสร้างความเสียหายใดๆ สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบได้เพิ่มเติมทุกวัน
