เชียงราย - เผยสมบัติติดตัว “จารุชาติ มาดทอง” พยานปากเอกคดี “บอส อยู่วิทยา-ทายาทกระทิงแดงเรดบูล” มีแค่พัดลม หม้อหุงข้าว กระเป๋าผ้า มีคนจัดให้ตอนรับศพกลับบ้าน ไม่เคยเห็นที่อยู่ที่กินที่ทำงาน
แม่/พ่อบุญธรรม-ญาติมิตร และเพื่อนบ้านได้นำร่าง นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากเอกในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อยู่วิทยา หนึ่งในทายาทกระทิงแดงเรดบูลขับรถชนตำรวจเสียชีวิต มาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 255/15 หมู่บ้านวังชมภู หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย หลังเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อกลางดึกวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยคืนแรก (30 ก.ค.) หลังเคลื่อนศพจาก จ.เชียงใหม่ กลับมาถึงภูมิลำเนาช่วงค่ำแล้ว มีการนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูปประกอบพิธี ท่ามกลางญาติมิตรและเพื่อนบ้านที่ต่างพากันมาช่วยงานอย่างแข็งขัน แต่ยังไม่พบบุคคลสำคัญในคดีเดินทางมาร่วมไว้อาลัยหรือวางพวงหรีด
ขณะที่สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ของนายจารุชาติที่ญาติและเพื่อนบ้านนำมาจาก จ.เชียงใหม่ พบว่ามีทรัพย์สินเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ ถุงพลาสติกสีดำบรรจุสิ่งของ 1 ใบ หม้อหุงข้าว 1 ใบ และพัดลมอีก 1 ตัว
เพื่อนบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า ตอนไปรับศพนายจารุชาติที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก็มีคนจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตายใส่ถุง-กระเป๋าเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อทางโรงพยาบาลอนุญาตให้นำศพกลับภูมิลำเนาได้พวกเราก็เพียงแต่ขนใส่รถยนต์กลับมาเท่านั้น ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาไปพักอยู่ที่ไหนและทำงานอะไร และไม่ได้ไปเก็บข้าวของส่วนตัวใดๆ ของเขา
“แม้แต่เพื่อนฝูงผู้ตายที่ทำงานอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ พวกเราก็ไม่เคยรู้จักและเขาก็ไม่ได้ตามมาส่งศพด้วย ขณะที่รถจักรยานยนต์ที่ขี่ไปประสบอุบัติเหตุได้ยินว่าเป็นรถเก่าที่ซื้อมาขี่โดยไม่มีเอกสาร ดังนั้นทรัพย์สินที่ติดตัวของเขามาก็มีเพียงเท่าที่เห็นกันเท่านั้น”
ด้านนายสมาน วังมูล อายุ 65 ปี บิดาบุญธรรมของนายจารุชาติ ซึ่งเดินทางไปรับศพ กล่าวว่า ครั้งล่าสุดที่นายจารุชาติกลับบ้านคือราวเดือนกุมภาพันธ์ 63 และกลับมานอนบ้านเพียง 2 คืนก็ออกจากบ้านไปทำงานต่ออีก และไม่เคยเล่าเรื่องใดๆ ให้ฟัง รวมทั้งไม่เคยอยู่บ้าน เรื่องการไปเป็นพยานในคดีดังก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง
ส่วนเรื่องนายจารุชาติประสบอุบัติเหตุที่เชียงใหม่จนเสียชีวิตตนก็ไม่ทราบข้อมูลชัดเจน ไม่เคยไปเห็นสภาพพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้สรุปข้อมูลให้ฟัง แต่หากเป็นอุบัติเหตุก็ไม่ติดใจเอาความใดๆ โดยจะประกอบพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขาให้ดีที่สุด
สำหรับคนในครอบครัวของนายจารุชาติ ประกอบด้วย นายสมาน วังมูล ซึ่งเป็นบิดาบุญธรรมเพราะบิดาที่แท้จริงของนายจารุชาติได้เลิกรากับแม่คือ นางตา วังมูล อายุ 76 ปี ไปตั้งแต่นายจารุชาติอายุได้เพียงประมาณ 3 เดือน และนายสมานกับนางตาก็เลี้ยงดูมาตลอด ต่อมานายสมานและนางตามีลูกสาวด้วยกันอีก 2 คน ปัจจุบันทำงานอยู่ที่เกาหลีใต้ และบาห์เรน
ส่วนนายจารุชาติเคยมีภรรยาและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่ได้เลิกรากันไปตั้งแต่ลูกยังเล็ก ปัจจุบันลูกสาวอายุ 15 ปีอาศัยอยู่กับนายสมานและนางตา ซึ่งครอบครัวไม่ได้มีฐานะร่ำรวย โดยอาศัยอยู่ที่บ้านไม้ยกสูงและยังชีพอยู่ด้วยการรับจ้างทั่วไป เช่น เก็บลำไย ทำสวน ฯลฯ กระทั่งนายจารุชาติปรากฏเป็นข่าวดังและเสียชีวิตดังกล่าว