ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยา รับสภาพปัญหากล้องวงจรปิดกว่า 2,000 จุด ทั่วพื้นที่เกิดการชำรุดกว่า 50% เตรียมงัด 3 แผนพัฒนาเสถียรภาพ หวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการท่องเที่ยวและความปลอดภัย
จากกรณีที่มีรายงานกล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้งทั่วเมืองพัทยา รวมจำนวนกว่า 2,000 จุด ใช้งบประมาณในการจัดซื้อจำนวนหลายร้อยล้านบาท แต่กลับประสบปัญหาชำรุดเสียหายจนทำให้กล้องวงจรกว่าครึ่งใช้งานไม่ได้ สร้างความสงสัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่กล้องวงจรปิดที่ใช้งบประมาณมหาศาลจัดซื้อ แต่เพราะเหตุใดจึงไม่สามารถใช้งานให้เกิดประโยชน์ และยังไม่สามารถควบคุมปัญหาการจราจร และเพิ่มความปอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนได้นั้น
นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เปิดเผยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมา เมืองพัทยามีโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่ท่องเที่ยวและจุดเสี่ยง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป โดยได้มีการ ติดตั้งกล้องวงจรปิดไปแล้วกว่า 2,000 จุด
พร้อมยอมรับว่าด้วยระยะเวลาของการใช้งานที่มีมานาน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องของระบบไฟเบอร์ออปติกที่เชื่อมต่อระหว่างกล้องมายังศูนย์อำนวยการ CCR ที่พบว่ามีปัญหาเพลิงไหม้สายส่งสัญญาณอยู่เป็นประจำ จึงทำให้มีกล้องที่ไม่สามารถใช้งานได้มากกว่า 50%
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2563-2565 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีแผนที่จะจัดทำระสายไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งเมืองพัทยา จะร่วมดำเนินการด้วยเพื่อลดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรและเพลิงไหม้เสาไฟฟ้าตามจุดที่ล่อแหลม ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณราว 30 ล้านบาท
“ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง เมืองพัทยาได้ใช้งบประมาณในปี 2563 ในการว่าจ้างภาคเอกชนเพื่อจัดทำระบบไร้สาย หรือ Wireless เพื่อช่วยให้กล้องวงจรปิดสามารถส่งสัญญาณได้แม้จะเกิดการลัดวงจรหรือเพลิงไหม้ ซึ่งระบบนี้จะมีการจัดแอปพลิเคชันต่างๆ ด้านการท่องเที่ยวด้วย โดยจะใช้เวลาดำเนินการ 1 ปี หรือจะแล้วเสร็จในปี 2564 ด้วยงบประมาณราว 50 ล้านบาท”
โดยนายกเมืองพัทยา มุ่งหวังว่าจะทำให้กล้องวงจรปิดสามารถใช้การได้ประมาณ 80% ของทั้งหมด และสุดท้ายยังจะมีแผนว่าจ้างภาคเอกชนเข้ามาดูระบบทั้งหมดเพื่อลดปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการแก้ไข รวมทั้งแผนการเพิ่มปริมาณของกล้องให้ทั่วทุกเขตพื้นที่ ซึ่งตั้งเป้าไว้จำนวน 3,000 จุดทั่วเขตเมืองพัทยา
และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2564 ส่วนจะมีอัตราค่าดูแลระบบและการแก้ปัญหาและการเพิ่มปริมาณกล้องตามที่เมืองพัทยาระบุที่จะต้องตั้งงบประมาณในการว่าจ้างปีละประมาณ 50 ล้านบาท
นายสนธยา ยังกล่าวอีกว่า ระบบกล้องวงจรปิดถือเป็นอีกโครงการที่มีความสำคัญต่อเมืองท่องเที่ยวหลัก เนื่องจากปัญหาการจราจรและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความอบอุ่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแผนการพัฒนาทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนปี 2566 นี้อย่างแน่นอน
