กาญจนบุรี - รื้อ “บ้านกกกอด” รีสอร์ตชื่อดังเมืองกาญจน์ คืบหน้า 80% แล้ว เตรียมปลูกป่าสร้างศูนย์เรียนรู้ให้ชาวช่องสะเดา กำนันเผย กำไรที่ได้กลับมาคือผืนป่า
ความคืบหน้าการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ต ชื่อ "บ้านกกกอด" ตั้งอยู่ท้องที่หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 20 หลัง เนื้อที่ 8 ไร่ 1 งาน 62 ตารางวา ที่เปิดบริการให้เช่าห้องพักราคาห้องละ1,200-3,000 บาทต่อวัน มานานหลายปี
รีสอร์ตดังกล่าวมี นายศิริยุทธ สิริยุทธพงษ์ นายทุนใหญ่ ชาวจังหวัดนครปฐม เป็นเจ้าของ โดยมีหุ้นส่วนในทางลับเป็นถึงลูกสาวอดีตทหารยศระดับนายพล ที่ได้ซื้อที่ดินผ่อนผันตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 มาจาก น.ส.เบญจพร โรจน์ขจรนภาลัย และนายราเชล หอชะเอม ในราคา 13 ล้านบาท
จากนั้นนำที่ดินแปลงดังกล่าวมาทำธุรกิจรีสอร์ตชื่อ "บ้านกกกอด" จนมีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจากมีสภาพทางธรรมชาติที่สวยงามติดอ่างเก็บน้ำเขื่อนท่าทุ่งนา แต่ที่ดินนั้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย
ต่อมา อุทยานแห่งชาติเอราวัณได้ประกาศใช้กฎหมายอุทยานมาตรา 35 ฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ที่มีบทลงโทษที่รุนแรง ทำให้ผู้ประกอบการยินยอมที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกจากพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรื้อถอนไปแล้วประมาณ 30% ของพื้นที่ทั้งหมด
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (24 ก.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วยนายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ และนายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้ นายสมยศ ศิลปีโยดม รอง ผวจ.กาญจนบุรี ได้ร่วมเดินทางไปติดตามความคืบหน้าด้วย
เมื่อไปถึงพบคนงานกำลังระดมกำลังกันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องพัก รวมทั้งทุบห้องพักที่สร้างด้วยปูน ส่วนห้องพักที่สร้างในลักษณะเป็นบ้านน็อกดาวน์นั้น ได้นำรถเครนมายกขึ้นรถบรรทุกในการเคลื่อนย้าย จากการสอบถามนายวณฐพงศ์ วัชระโชควรากุล ผู้จัดการ ทราบว่า วันที่ 28 ก.ค.ที่จะถึงนี้ จะสามารถนำรถแบ็กโฮเข้ามาปรับพื้นที่ได้แล้ว
ทั้งนี้ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ทางกรมอุทยานฯ จะร่วมกับตำบลช่องเอาในการฟื้นฟูสภาพป่า เมื่อเสร็จแล้วจะใช้เป็นศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติต่อไป ซึ่งขณะนี้การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างมีความหน้าไปแล้วถึง 80% ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าของบ้านกกกอด ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินการรื้อถอนเพื่อให้พื้นที่กลับมาเป็นของชาติต่อไป
ด้านนายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา กล่าวว่า เราพร้อมที่จะดูแลพื้นที่เพราะว่ามันเป็นสมบัติของส่วนรวม โดยที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันบ้างแล้วซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะมาร่วมกันทำให้เป็นศูนย์เรียนรู้ให้มีความมั่นคงและยั่งยืนกับตำบลของเราต่อไป ซึ่งพื้นที่แห่งนี้จะไม่เป็นของคนใดคนหนึ่ง แต่จะเป็นของตำบลช่องสะเดาทุกหมู่บ้าน
หากฟื้นฟูสภาพป่าขึ้นมาใหม่แล้วทำเป็นศูนย์เรียนรู้ได้สำเร็จ สิ่งที่ชุมชนจะได้รับก็คือป่า กำไรที่เราจะได้ก็คือป่า เมื่อพี่น้องประชาชนมีความสุข แค่นี้ก็ถือว่าเป็นกำไรของทุกคนแล้ว