เชียงราย - กลุ่มการค้าชายแดนชงหอการค้าไทยเสนอรัฐคลายล็อกสกัดโควิดฟื้นเศรษฐกิจ เปิดจุดผ่านแดนถาวร-จุดผ่อนปรน 91 จุดทั่วประเทศ เริ่มจากเปิดด่านถาวรสิ้นสิงหาฯ-กันยาฯ เปิดจุดผ่อนปรน แต่ห้ามคนประเทศที่สามเข้าออก
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ห้วงที่มีการปิดด่านพรมแดนสกัดโควิด ทำให้การค้าชายแดนไทย-พม่า, ไทย-ลาว ด้านเชียงราย ที่เคยมีมูลค่าสูงกว่าการค้าผ่านแดนถึง 3 เท่าตัว รวมทั้งการค้าชายแดนในจุดอื่นๆ ทั่วประเทศ หายไปอย่างสิ้นเชิง เพราะผู้คนไม่สามารถเดินทางข้ามฝั่งติดต่อซื้อขายกันได้ตามปกติ
ดังนั้น ในการประชุม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) คณะกรรมการกลุ่มค้าชายแดนและค้าข้ามแดน ครั้งที่ 6 วาระปี 2562-2563 ซึ่งมีนายนิยม ไวยรัชพานิช เป็นประธาน ปลายสัปดาห์นี้ จึงมีมติขอให้มีการผลักดันเปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทุกจุดของไทยทั้ง 91 จุดโดยเร็ว เริ่มต้นจากการเปิดจุดผ่านแดนถาวรก่อนภายในเดือนสิงหาคม 63 นี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ทยอยเปิดจุดผ่อนปรนภายในเดือนกันยายนตามลำดับ
นอกจากนี้ยังได้ขอให้สภาหอการค้าฯ เร่งประสานกับทางรัฐบาล เพื่อเปิดจุดตรวจผ่านแดนสะพานมิตรภาพ ไทย-พม่า แห่งที่ 1 แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เพราะเป็นจุดตรวจผ่านแดนสำคัญต่อการค้าชายแดนเชียงรายที่เชื่อมกับเมืองสำคัญต่างๆ ของรัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า)
ทางสภาหอการค้าไทยได้รับว่าจะนำข้อเสนอการเปิดด่านชายแดนไทย-พม่า ทั้งด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเบื้องต้นได้มีการหารือกับทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (ศบค.) เบื้องต้นแล้วเพื่อหาวิธีการป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยจะไม่อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่สามผ่านเข้าออกด่านพรมแดนดังกล่าวและมาตรการอื่นๆ ตามที่เห็นเหมาะสม จากนั้นก็จะนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ที่ผ่านมามีการผลักดันให้เปิดจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก จ.เชียงใหม่ และส่วนเชียงรายได้เปิดจุดผ่อนปรนแจมป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น และท่าเรือผาถ่าน ต.เวียง อ.เชียงของ ติดกับแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ไปแล้ว แต่ยังคงรอให้ สปป.ลาวอนุมัติเปิดด่านเชื่อมโยงกันอยู่”
ขณะที่จุดผ่านแดนถาวรที่เปิดให้มีการขนส่งสินค้า คือ สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย ท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน แห่งที่ 2 และสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 พบว่าตัวเลขผู้เดินทางข้ามด่านพรมแดนไปมาโดยเฉพาะ อ.แม่สาย เดือน ม.ค.-ก.พ.เดือนละกว่า 600,000-800,000 คน ได้หายไปหมดในเดือน มี.ค.