ชัยนาท - ชาวนาในอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท จำนวน 63 ราย เข้าร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดชัยนาท เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อประกันภัยข้าวนาปีกับ ธ.ก.ส. สาขาหันคา แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติแล้ง ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย กลับได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ไม่ครบตามจำนวนทุนประกัน
น.ส.กฤษณา เกษดี อายุ 56 ปี ชาวนา ต.เด่นใหญ่ บอกว่า ตนมีพื้นที่ทำนาทั้งหมด 42 ไร่ ซึ่งเมื่อปี 2562 ได้ซื้อประกันภัยข้าวนาปี ผ่านทาง ธ.ก.ส.สาขาหันคา ไว้ทั้งหมด 42 ไร่ แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติแล้งเมื่อช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ปลูกข้าวได้รับความเสียหายทั้งหมด จึงได้แจ้งความเสียหายไปยัง ธ.ก.ส. สาขาหันคา และเกษตรอำเภอหันคา
เพื่อขอรับเงินค่าสินไหมทดแทน ซึ่งต่อมาในเดือนเมษายน 2563 ได้มีเงินค่าสินไหมโอนเข้ามาบัญชีธนาคารของตน แต่ได้ไม่ครบตามจำนวนทุนประกันที่ทำไว้ จากที่คาดว่าจะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนไร่ละ 1,500 บาท เป็นเงินจำนวน 63,000 บาท แต่กลับได้รับมาเพียง 30,000 กว่าบาทเท่านั้น เมื่อแจ้งไปยัง ธ.ก.ส.หันคา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ แต่เรื่องก็เงียบหายไป จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจง ว่าเป็นเพราะเหตุใด
ขณะที่ นางฉวีวรรณ หงส์ทอง อายุ 47 ปี ชาวนา ต.หันคา บอกว่า ทำประกันภัยข้าวนาปีไว้ทั้งหมด 132 ไร่ โดยได้แจ้งพื้นที่เสียหายจากภัยแล้ง จำนวน 86 ไร่ แต่กลับได้รับค่าสินไหมทดแทนมาเพียง 40 ไร่เท่านั้น ได้รับเงินมา 60,000 บาท ส่วนความเสียหายอีก 46 ไร่ที่เหลือกลับไม่ได้รับค่าสินไหม จึงต้องเข้ามาร้องเรียนให้สำนักงาน คปภ.ชัยนาท ช่วยเหลือ เพราะตั้งใจว่าจะนำเงินค่าสินไหมดังกล่าวไปซื้อพันธุ์ข้าวมาปลูกข้าวชดเชยที่เสียหายไป แต่กลับได้รับเงินไม่ครบจำนวน
เช่นเดียวกับชาวนาอีกหลายราย ต่างได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนไม่ครบตามจำนวนทุนประกัน และชาวนาบางรายยังพบว่า ข้อมูลตัวเลขพื้นที่ความเสียหายของตนเองที่ได้แจ้งไปยัง ธ.ก.ส. กับหน่วยงานเกษตร เพื่อส่งไปยังบริษัทประกันภัย มีการบันทึกลงในฐานข้อมูลไม่ตรงกัน มีความคลาดเคลื่อนในเรื่องตัวเลขพื้นที่ความเสียหาย เช่น บางคนแจ้งพื้นที่ความเสียหายไป 40 ไร่ แต่กลับถูกบันทึกลงในฐานข้อมูลเพียงแค่ 30 ไร่เท่านั้น จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาชี้แจง
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัด
ชัยนาท (คปภ.ชัยนาท) ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่จากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ธ.ก.ส.สาขาหันคา และสำนักงานเกษตรอำเภอหันคา ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
น.ส.กัลยา จุกหอม ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารสายงานวิชาการ สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงกับเกษตรกรแต่ละราย พบว่า ปัญหาดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากความไม่เข้าใจในรายละเอียดของการทำประกันภัยข้าวนาปี จึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจ ว่า เงินค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับนั้น เป็นการจ่ายตามความเป็นจริง และเฉลี่ยตามสัดส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
ส่วนรายที่พบว่า ข้อมูลตัวเลขความเสียหายที่แจ้งไปไม่ตรงกับข้อมูลที่บริษัทประกันภัยได้รับนั้น เจ้าหน้าที่จะลงไปตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่การทำประชาคม ว่ามีการแจ้งความเสียหายจริงไว้จำนวนเท่าใดกันแน่ จากนั้นถึงจะมาชี้แจงให้เกษตรกรได้รับทราบต่อไป