พระนครศรีอยุธยา - ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่กรุงเก่า โชว์รวบแล้วมือปาหิน พบประวัติโชกโชนไม่เข็ดหลาบ พร้อมตรวจเข้มถนนสายรอง สร้างความปลอดภัยมั่นใจแก่พี่น้องประชาชน
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้ก้อนหินปาใส่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์เสียหายจำนวน 4 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เป็นหญิง 1 ราย และเด็กชาย 1 ราย ถูกก้อนหินที่ขา เหตุเกิดบนถนนสายข้าวเม่า-บ้านเป็ด ด้านหลังตลาดกลางเพื่อการเกษตร ม.10 ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ก.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธานินทร์ ผิวละเอียด ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ทัชวัฒน์ สายโยธา ผกก.สภ.อุทัย พ.ต.ท.พีรพัสส์ ชูช่วย รอง ผกก.สส.สภ.อุทัย
พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายพรชัย จันทร์โชติ อายุ 36 ปี พักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สี แดงดำ หมายเลขทะเบียน 9 กช 7812 กรุงเทพมหานคร หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สีดำ พร้อมด้วยเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ
โดย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ทัชวัฒน์ สายโยธา ผกก.สภ.อุทัย ได้ร่วมกันทำการสอบสวนด้วยตนเองใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากนั้น พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 ได้แถลงข่าวหลังจากที่ทำการสอบสวน นายพรชัย ผู้ต้องหาที่ด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ได้มีการรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา จึงได้มีการเร่งติดตามพร้อมหาหลักฐาน ทั้งตามพยานแวดล้อม รวมทั้งกล้องวงจรปิด จนสามารถรู้ว่าเป็นใคร ใช้รถยี่ห้อและทะเบียน ไปสู่การจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า เมา คึกคะนอง บันดาลโทสะ โมโห
จากการตรวจสอบมีประวัติเคยต้องโทษมาแล้ว 6 ครั้ง คดียาเสพติด 3 ครั้ง พยามฆ่า 2 ครั้ง ทำให้เสียทรัพย์ 1 ครั้ง ซึ่งถือว่าไม่เข็ดหลาบ เป็นพฤติการณ์ที่เหิมเกริม ผู้ก่อเหตุใช้เวลาวันเดียวในเวลาใกล้เคียงกันก่อเหตุ เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตาม จับกุมได้อย่างรวดเร็ว ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุที่เกิดในถนนสายรอง ซึ่งต่อไปนี้ทางตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งการเข้มในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบนถนนสายรองในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอันตรายอย่างมากกับพี่น้องประชาชน ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 2 ข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์ อย่างไรก็ตาม จะทำการสอบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณถนนสายข้าวเม่า-บ้านเป็ด ม.10 ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักที่ อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมาถึงบริเวณที่เหตุ มีรถยนต์กระบะของผู้เสียหายขับสวนทาง จึงเอาอิฐมวลเบา ขนาด 20 ซม. ขว้างใส่รถยนต์กระบะจนได้รับความเสียหาย จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งก่อนที่จะมาก่อเหตุกับรถยนต์กระบะ ได้ก่อเหตุขว้างรถยนต์เก๋ง จำนวน 2 คัน และรถจักรยานยนต์มาแล้วในเวลาใกล้เคียงกัน
นายพรชัย จันทร์โชติ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนเองดื่มสุราจนเมา แล้วพยายามจะขับแซงรถยนต์กระบะคันหนึ่งแต่ไม่ยอมให้แซงขับปาดตนและฝุ่นเข้าตา ขับตามแต่ไม่ทัน ด้วยความที่ดื่มสุราจนเมาจึงเกิดความโมโห ขาดสติ เก็บก้อนอิฐ ก้อนหินตามข้างทางขว้างปาใส่รถยนต์ที่วิ่งสวนทาง ซึ่งไม่ได้เป็นคู่กรณีกับตนเอง จากนั้นกลับไปที่บ้านพัก จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมขอโทษผู้เสียหายทั้งหมดโดยเฉพาะรายที่เป็นผู้หญิง ขอโทษจริงๆ กับทุกคนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.สุชานันท์ ชุติรัมย์ อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย ที่ถูกปาก้อนหินจนกระจกรถยนต์เก๋งแตก กล่าวว่า ถ้าหากยังจับคนร้ายไม่ได้ตนเองต้องขับรถกลับบ้านเส้นทางนี้เป็นประจำรู้สึกหวาดกลัวมาก ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานได้อย่างรวดเร็วติดตามจับกุมคนร้ายได้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ห่วงใยประชาชนจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว