ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลับมาคราวนี้เกิดแน่ ฟื้นชีพอุโมงค์ทางลอดสามแยกนครราชสีมา 800 ล้าน กรมทางหลวงเปิดเวทีฟังความเห็นด้านสิ่งแวดล้อม สวล. หวังแก้วิกฤตจราจรผ่าเมืองโคราช เผยเส้นทางยึดแนวเดิมตาม ถ.มิตรภาพที่เคยศึกษาออกแบบไว้เมื่อ 13 ปีก่อน ชี้หากฉลุยก่อสร้างได้ปี 2565 ใช้เวลา 2 ปีเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมซิตี้พาร์ค ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดเวทีประชุมหารือแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอุโมงค์จุดตัดทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กับทางหลวงหมายเลข 224 (แยกนครราชสีมา) จ.นครราชสีมา ใกล้กับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช โดยมีตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 250 คน ซึ่งโครงการอุโมงค์ทางลอดสามแยกนครราชสีมาเป็นโครงการที่ได้ศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบไว้เรียบร้อยเมื่อปี 2550 หรือ 13 ปีที่ผ่านมา และได้รับการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างโครางการแล้วจำนวน 400 ล้านบาท แต่เนื่องจากในขณะนั้นมีประชาชน ภาคเอกชนนักธุรกิจบางกลุ่มออกมาคัดค้านโดยอ้างผลกระทบด้านธุรกิจการค้าในย่านดังกล่าว ทำให้การดำเนินโครงการต้องระงับไปพร้อมกับงบประมาณ
นายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 เปิดเผยว่า จากการขยายตัวของเมืองนครราชสีมา และการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ การอพยพเข้ามาอาศัยในพื้นที่เพิ่มขึ้นของประชากร จำนวนรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะถนนเส้นหลักที่วิ่งผ่าตัวเมืองนครราชสีมา บริเวณสามแยกนครราชสีมา และบริเวณสามแยกประโดก รวมทั้งบริเวณดังกล่าวยังมีศูนย์การค้า ร้านค้า ย่านธุรกิจเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและหนาแน่น
จากข้อมูลพบว่าบริเวณทั้ง 2 จุดดังกล่าวจะมีรถยนต์วิ่งผ่านวันละกว่า 100,000 คัน ซึ่งบริเวณโดยรอบมีชุมชนหนาแน่น ในปัจจุบันได้จัดการจราจรด้วยสัญญาณไฟจราจร ทำให้ไม่สามารถรองรับการจราจรได้เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต จึงนำผลการศึกษาและออกแบบโครงการดังกล่าวมาทบทวน ปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน
นายพรชัยกล่าวต่อว่า กรมทางหลวงมีแผนจะก่อสร้างอุโมงค์บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 2 กับ ทางหลวงหมายเลข 224 (แยกนครราชสีมา) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรหนาแน่น และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2550 กรมทางหลวงได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างทางลอดบนทางหลวงหมายเลข 2 บริเวณสามแยกนครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงการ แต่จากการตรวจสอบพื้นที่โครงการพบว่ามีแหล่งโบราณสถานในระยะ 1 กิโลเมตรจากถนนโครงการ จึงเข้าข่ายโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก่อนการพัฒนาโครงการ
ดังนั้น กรมทางหลวงจึงได้ว่าจ้าง บริษัท ธรรมชาติคอนซัลแตนท์ จำกัด และ บริษัท ซิตี้แพลนโปรเฟสชั่นนอล จำกัด ให้ดำเนินการศึกษาทบทวนรูปแบบการก่อสร้างที่เคยออกแบบไว้เมื่อปี 2550 และประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การดำเนินโครงการเกิดผลกระทบต่อทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและสังคมน้อยที่สุด ในการดำเนินงานดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนและการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีโอกาสแสดงทัศนคติแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นเพื่อการดำเนินการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นมากที่สุด
สำหรับพื้นที่ศึกษา เป็นบริเวณสามแยกนครราชสีมา จุดตัดทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กับทางหลวงหมายเลข 224 โดยมีจุดเริ่มต้นที่ทางหลวงหมายเลข 2 กม.253+371 ถึง กม.254+552 รวมระยะทาง 1.189 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในระยะ 500 เมตร จากกึ่งกลางแนวเส้นทางโครงการในเขตตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และในการศึกษาผลกระทบด้านโบราณคดีจะมีขอบเขตพื้นที่ศึกษาครอบคลุมในระยะ 1 กิโลเมตร จากกึ่งกลางแนวเส้นทางโครงการจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ บ้านสำโรงจันทร์ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และประตูชุมพล จึงต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนการพัฒนาโครงการ
นายพรชัยกล่าวอีกว่า รูปแบบอุโมงค์ เป็นอุโมงค์ขนาด 2 ช่องจราจร มีช่องจราจร 3.25 เมตร ความกว้างภายใน 9.10 เมตร และมีทางเท้ากว้าง 1.00 เมตร ซ้อนทับกับแนวทางหลวงหมายเลข 2 ในทิศทางจากจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวขวาไปจังหวัดสระบุรี มีความสูงช่องลอดไม่น้อยกว่า 5.50 เมตร ความลาดชันของอุโมงค์ร้อยละ 4 ความยาวอุโมงค์ 929 เมตร ความยาวอุโมงค์ช่วงปิด 126 เมตร สามารถรองรับความเร็ว ออกแบบได้ 50 กม./ชม. เข้าอุโมงค์ทางลอดบริเวณหน้าศูนย์เพาะชำเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ลอดใต้ทางแยกนครราชสีมาและสิ้นสุดบนทางระดับดินบริเวณหน้าอู่ชินวัฒน์บริการ
ส่วนรูปแบบถนนระดับดินจะออกแบบให้มีขนาด 4 ช่องจราจร (ทิศทางไปจังหวัดขอนแก่น) ซึ่งมีขนาดความกว้างช่องละ 3.00-3.25 เมตร และออกแบบให้มี 3 ช่องจราจร (ทิศทางไปจังหวัดสระบุรี) ซึ่งมีขนาดความกว้างช่องจราจรช่องละ 3.00-3.25 เมตร มีการควบคุมทิศทางการเดินรถด้วยสัญญาณไฟจราจร ระยะทางรวมของโครงการ 1.189 กม. โดยมีระบบการจัดการระบบระบายน้ำและระบบไฟฟ้าส่องสว่างภายในอุโมงค์ที่มีตามมาตรฐาน โดยโครงการดังกล่าวนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 800 ล้านบาท
“ทั้งนี้ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม จะจัดการประชุมเพื่อหารือแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอุโมงค์ฯ อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง คาดว่าหากขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยเป็น ไปตามแผนที่วางไว้จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2565 และใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี” นายพรชัยกล่าวในตอนท้าย