อุบลราชธานี - เข้าใจตรงกันนะ! โพสต์ดรามา ด.ช. ป.3 กำพร้าพ่อแม่ หนีเรียนเดินเท้าไปดูแลย่าพิการที่บ้าน ที่จริงน้องกลับไปนวดให้ย่าแค่ช่วงพักเที่ยง บ้านอยู่ใกล้โรงเรียน ซ้ำย่าไม่ได้ป่วยแค่เป็นโรคผู้สูงอายุทั่วไป มี อสม.ดูแล เด็กชายก็ร่าเริงแจ่มใส โรงเรียนใส่ใจอย่างดี
ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์โพสต์ข่าวกรณี เด็กชาย เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี ครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าชอบหลบเรียน ออกจากโรงเรียนช่วงพักกลางวัน เกรงว่าจะไปติดเกม ครูเลยแอบตามไป เมื่อไปถึงบ้านครูถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ซึ่งเด็กคนนี้จะเดินเท้ากลับบ้านไปดูแลย่าที่ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไปเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยา ต้องรีบกลับเพราะเป็นห่วงย่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ค.) เวลา 09.00 น. นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเดชอุดม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเดชอุดม ประสานงานร่วมกับผู้อำนวยการ/คณะครูโรงเรียนบ้านหนองแสง และแอดมินเพจเดชอุดมทีวี เจ้าหน้าที่ศูนย์สุขภาพชุมชนแขมเจริญ ประธานชุมชน หมู่ที่ 11 ต.เมืองเดช อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ด.ช.ซี (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองแสง ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จากการสังเกตเป็นเด็กร่าเริง สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ มีพี่น้อง 2 คน บิดามารดาได้รับโทษจำคุกคดี พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน
โดย ด.ช.ซีอาศัยอยู่กับ นางนวย สิงห์แจ่ม อายุ 61 ปี มีสถานะเป็นย่า อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 11 ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม มีสมาชิกครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านจำนวน 6 คน
กรณีที่ ด.ช.ซีมักจะออกนอกโรงเรียนในห้วงเวลาพักกลางวันเป็นเรื่องจริง เพราะ ด.ช.ซีกลับบ้านไปหาย่า เพื่อนวดหลังให้ย่า และอยู่เป็นเพื่อนย่าเท่านั้น โดย ด.ช.ซีจะเดินเท้าไปหายายที่ตลาดสดเทศบาล 1 เดชอุดม ห่างจากโรงเรียนประมาณ 400 เมตร เพื่อให้ยายขับรถไปส่งตนเองที่บ้านย่า (เลขที่ 140 หมู่ที่ 11 ตำบลเมืองเดช) จากการสังเกตของครู ทราบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวในห้วงเปิดเทอมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
ส่วน นางนวย ผู้เป็นย่านั้น อายุ 61 ปี เป็นผู้ป่วยติดบ้าน มีโรคประจำตัวเบาหวาน ช่วยเหลือตนเองได้ มีนักบริบาลผู้สูงอายุเข้าไปดูแลทุกอาทิตย์ นางนวยดูแลกิจวัตรประจำวันส่วนตัวได้เอง และเป็นผู้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาท/เดือน
อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทางอำเภอได้มอบเงิน สิ่งของเพื่อใช้ในครัวเรือน และจะส่งต่อข้อมูลของ ด.ช.ซี ให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ความช่วยเหลือดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสมต่อไป
ในส่วนของนางนวย ศูนย์สุขภาพชุมชนแขมเจริญ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ได้ให้การดูแลอย่างต่อเนื่องในด้านการรักษาโรคประจำตัว และการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ พร้อมทั้งหารือผู้นำชุมชน ผู้ได้รับความเดือดร้อน ในด้านการดูแลบัญชีธนาคารที่มีผู้มีความประสงค์ช่วยเหลือโอนเงินเพื่อช่วยเหลือในด้านต่างๆ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเดชอุดมทีวี