xs
xsm
sm
md
lg

โหดไปมั้ย! ฆ่าทุบหัวควักตาสุนัขไซบีเรียน 2 แม่ลูก โร่พึ่งวอชด็อกฯ เร่งขุดซากตรวจหาคนร้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


น.ส.ตั้งปณิธาน เนมียะวงศ์ เจ้าของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนสองแม่ลูก นำเจ้าหน้าที่ไปขุดซากสุนัขนำไปตรวจพิสูจน์หาหลักฐานตามจับคนร้ายมาดำเนินคดี
อุดรธานี - โหดมาก สองแม่ลูกสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน “มานี กับซูก้า” ถูกคนร้ายใจโฉดใช้ของแข็งฆ่าทุบหัว ควักลูกตาออก ทั้งใช้มีดฟันร่างดับคาบ้านสวน เจ้าของโร่แจ้งตำรวจ และวอชด็อกไทยแลนด์ สั่งขุดซากส่งโรงพยาบาลสัตว์ขอนแก่นตรวจพิสูจน์

จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพสุนัขไซบีเรียนแม่ลูกถูกฆ่าทุบหัวอย่างโหดเหี้ยมและเขียนข้อความไปยังเฟซบุ๊กมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ (Watchdog Thailand) ล่า! คนใจโหดฟันยับไซบีเรียนน้อยสองชีวิต ทุบหัวสมองไหล ควักลูกตา ตามล่า! คนใจโหดบุกรุกเข้าไปฆ่าไซบีเรียนน้อยสองชีวิต ทั้งๆ ที่ถูกผูกล่ามและขังอยู่ในคอก สองชีวิตถูกควักลูกตาออกทั้งสองข้าง หัวถูกทุบจนสมองไหล ตามร่างกายถูกฟันด้วยของมีคมจนยับเยิน บ้านหนองประเสริฐ ต.ทับกรุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เหตุเกิดวันที่ 7 กรกฎาคม 2563


ล่าสุดวันนี้ (9 ก.ค.) ที่บ้านสวนป่าไผ่ทางทิศตะวันตก บ้านหนองประเสริฐ ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุฆ่าทุบหัวสุนัขไซบีเรียน พ.ต.ท.คุณธรรม สุริยะราช สว.(สอบสวน) สภ.หนองแสง จ.อุดรธานี พร้อมตำรวจสืบสวน ออกมาสอบปากคำ น.ส.ตั้งปณิธาน เนมียะวงศ์ อายุ 29 ปี และนายสุภาพ เนมียะวงศ์ อายุ 62 ปี เจ้าของสุนัข โดยสุนัขไซบีเรียนแม่ลูกที่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แม่ชื่อ มานี อายุ 4 ปี ส่วนลูกเป็นตัวผู้ชื่อ ซูก้า อายุ 4 เดือน

น.ส.ตั้งปณิธาน เจ้าของสุนัข เล่าว่า มีอาชีพเป็นเซลส์ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นคนรักสุนัข ได้ซื้อสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนเพศเมียมาเลี้ยง และได้ตั้งชื่อว่ามานี ได้เลี้ยงไว้ที่บ้านในตัวเมืองอุดรธานี และเคยนำมาเลี้ยงที่บ้านสวนที่มีบริเวณกว้างเพราะต้องการให้มานีได้วิ่งเล่น แต่มานีได้ไปกัดไก่ของเพื่อนบ้านตายไป 8 ตัว แต่เพื่อนบ้านไม่ติดใจเอาความ แถมยังนำไก่ที่ถูกกัดตายมาต้มสู่กันกิน จากนั้นตนนำแม่มานีกลับมาเลี้ยงที่บ้าน และตั้งท้องคลอดลูกมาได้ 3 ครอก ตนได้ทยอยขายลูกแม่มานีไป จนเหลือน้องซูก้าเพียงตัวเดียว เพราะจะเก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์ ส่วนแม่มานีจะนำไปทำหมัน

ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน มีฝนตกต่อเนื่องทั้งบริเวณบ้านในเมืองคับแคบ ทำให้แม่มานีกับเจ้าซูก้าไม่มีที่วิ่งเล่น อีกทั้งอากาศชื้นทำให้มีกลิ่นสาปสุนัขรุนแรง ตนจึงให้พ่อนำสุนัขทั้งสองมาเลี้ยงที่บ้านสวนแห่งนี้ โดยทำคอกสุนัขด้วยไม้ไผ่ และหากจะนำสุนัขทั้งสองตัวออกมากินข้าวต้องคล้องด้วยโซ่และเชือก เมื่อกินข้าวแล้วอยากนอนอยู่ด้านนอกก็ต้องผูกเชือกและล่ามโซ่เอาไว้ทั้งสองตัว ซึ่งมักจะนอนอยู่ใต้กอไผ่เป็นประจำ โดยไม่ได้ออกไปนอกเขตสวนเลย แต่ก็ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่รู้สาเหตุ




น.ส.ตั้งปณิธานเล่าต่อว่า คืนวันที่ 7 กรกฎาคม ตนฝันว่าได้ไปเล่นกับแม่มานีและเจ้าซูก้าบนเครื่องบินอย่างสนุกสนาน ทำให้ตนคิดถึงสุนัขทั้งสองมาก โดยไม่รู้ว่าสุนัขของตนทั้งสองถูกฆ่าตาย พอเช้าวันที่ 8 กรกฎาคมตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านสวนป่าไผ่ พอมาถึงตนถามหาสุนัขทั้งสอง แต่พ่อบอกว่าแม่มานีกับเจ้าซูก้าถูกคนใจร้ายไม่รู้ว่าเป็นใคร เข้ามาทุบหัวฆ่าอย่างโหดเหี้ยมตั้งแต่ค่ำวันที่ 7 กรกฎาคมแล้ว และนำซากสุนัขทั้งสองตัวไปฝังแล้วแต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียใจ ตนจึงโพสต์เรื่องราวและภาพแม่มานีกับเจ้าซูก้าถูกฆ่า ไปยังเฟซบุ๊กมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และไปแจ้งตำรวจให้ติดตามหาคนร้าย

“อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุให้ออกมายอมรับ และรับผิดชอบสิ่งที่กระทำลงไป เพราะถ้าเปรียบสุนัขเป็นคนถือว่าได้ฆ่าคนตายไปถึง 2 คนอย่างโหดเหี้ยม หากสุนัขทำผิดจนได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายก็แค่ตีและให้มาบอกเจ้าของ ซึ่งดิฉันจะไม่นำสุนัขมาเลี้ยงที่นี่อีกแล้ว”

ด้านนายสุภาพ เนมียะวงศ์ เล่าว่า ตนเข้ามาปลูกป่าไผ่ 4 ไร่นานกว่า 5 ปีแล้ว เช้าวันเกิดเหตุตนและภรรยาได้นำข้าวเช้ามาให้แม่มานีกับน้องซูก้ากิน โดยผูกเชือกและล่ามโซ่ไว้ใต้กอไผ่ จากนั้นได้ไปวัด และไปทำธุระ กระทั่งเวลา 17.00 น. ตนกลับมาก็พบสุนัขทั้งสองตัวนอนแน่นิ่ง คิดว่าสุนัขนอน ซึ่งปกติจะเห่า แต่พอมาดูใกล้ๆ ก็พบว่าสุนัขทั้งสองถูกของแข็งทุบและของมีคมสับหัวจนเละ ตามลำตัวถูกของมีคมสับ นอนจมกองเลือด

คาดว่าจะถูกจอบทุบและสับ ตนสอบถามเพื่อนบ้านก็ทราบว่าได้ยินเสียงทุบทำร้ายแต่ไม่กล้าออกมาดู คิดว่าตนทำโทษสุนัข ตนจึงนำสุนัขไปฝังในสวน แต่ไม่กล้าบอกลูกเพราะกลัวจะเสียใจจากสุนัขตัวโปรดถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณ

“คิดว่าคนที่มาฆ่าอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าผมปล่อยสุนัขไปกัดสัตว์เลี้ยง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่าสุนัขไปกัดไก่ ซึ่งผมไปบอกว่าสุนัขของผมเลี้ยงแบบผูก ไม่ได้ปล่อย ถ้าผมเลี้ยงแบบปล่อย ไก่ชนที่เลี้ยงไว้คงถูกแม่มานีกับซูก้ากัดตายหมดแล้ว” นายสุภาพกล่าว


ด้านนายสวาท ตางจงราช อายุ 85 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร ได้ยินเสียงคล้ายมีคนทำร้ายสุนัข คิดว่าเจ้าของตีสั่งสอนจึงไม่ได้ออกมาดู แต่ได้ยินเสียงอาวุธคล้ายท่อนเหล็กหรือจอบทุบทำร้าย ได้ยินเสียงสุนัขร้อง 2 ครั้งก็เงียบเสียงไป กระทั่งเจ้าของสุนัขกลับมาจึงรู้ว่ามีคนเข้ามาฆ่าสุนัขจนตาย ซึ่งเป็นการฆ่าที่โหดร้ายทารุณ

จากนั้นอาสากู้ภัยสว่างเมธาธรรม จุดหนองแสง ได้มาขุดเอาซากแม่มานีกับเจ้าซูก้าขึ้นมาให้พนักงานสอบสวนถ่ายรูป ซึ่งตำรวจได้เก็บโซ่ เชือก ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะให้อาสากู้ภัยนำซากไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสัตว์ศูนย์ขอนแก่น โดยมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่ง น.ส.ตั้งปณิธานได้จุดธูปบอกกล่าวกับซากสุนัขทั้งสองซึ่งกำลังส่งกลิ่นเหม็น ว่าจะนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสัตว์ขอนแก่นเพื่อหายาพิษและหลักฐานเพื่อตามหาคนที่ฆ่า ขอส่งวิญญาณไปขึ้นสวรรค์ ให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี และจะเอาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น