ระทึก! เขื่อนสิรินธรเปิดประตูน้ำโดยไม่แจ้งผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวทราบล่วงหน้าทำให้หนีตายขึ้นจากน้ำ โชคดีแค่แพเสียหายเล็กน้อย ส่วนนักท่องเที่ยวขวัญหนีดีฝ่อ อำเภอเรียกผู้ประกอบการประชุมหาข้อเท็จจริงได้ฝ่าฝืนเข้าไปยังจุดห้ามเข้าหรือไม่
เจ้าของแพใช้ล่องแก่งลำน้ำโดมน้อยจากหน้าเขื่อนสิรินธร อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ลงสู่แม่น้ำมูลก่อนไหลออกไปยังแม่น้ำโขงที่อำเภอโขงเจียม ชี้ให้สื่อมวลชนดูความเสียหายโครงสร้างของแพที่ใช้พานักท่องเที่ยวล่องแก่งพักผ่อนเล่นน้ำ
ซึ่งได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำที่พัดจนเชือกผูกแพขาดแล้วไหลไปปะทะกับแพที่ให้บริการรายอื่น ทำให้แพเอียงข้าวของหล่นลงไปในลำน้ำ ก่อนถูกสายน้ำพัดหายไป
แต่โชคดีขณะเกิดเหตุผู้ประกอบการแพไหวตัวทัน เมื่อเห็นระดับน้ำเพิ่มขึ้นและไหลแรงจึงรีบแจ้งนักท่องเที่ยวที่ส่วนหนึ่งลงเล่นน้ำ และอีกส่วนนั่งพักผ่อนอยู่บนแพให้วิ่งขึ้นไปอยู่บนฝั่ง จึงไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ แต่สิ่งของและโครงสร้างแพได้รับความเสียหายเล็กน้อย
นายวุฒิชัย คำจุล อายุ 33 ปี ผู้ประกอบการและเป็นนายท้ายแพท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์กระแสน้ำพัดแพจนเกือบล่มครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พานักท่องเที่ยวล่องแพดูธรรมชาติและมาจอดแพใกล้หน้าเขื่อนสิรินธรเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ
ระหว่างนั้นจู่ๆ กระแสน้ำที่ไหลออกจากประตูหน้าเขื่อนไหลแรงกว่าปกติ และมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น จึงตะโกนแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำอยู่ในแก่ง และที่นั่งอยู่ในแพให้รีบขึ้นจากน้ำ พร้อมออกจากแพขึ้นมาอยู่บนบกเพื่อความปลอดภัย ซึ่งกระแสน้ำที่พัดแรงทำให้เชือกผูกแพขาดไหลไปปะทะกับแพลำอื่นที่อยู่ด้านล่างได้รับความเสียหายประมาณ 1 หมื่นบาท และทำให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเสียขวัญ
ส่วนสาเหตุผู้ประกอบการระบุว่า เกิดจากเขื่อนสิรินธรเปิดประตูระบายน้ำโดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้า เพราะปกติเขื่อนจะเปิดประตูระบายน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงเช้า และมีการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบผ่านทางโปรแกรมกลุ่มไลน์เพื่อให้ระมัดระวังกระแสนน้ำที่จะไหลแรงขึ้น
แต่วันนี้เขื่อนทำการเปิดประตูน้ำในช่วงบ่าย โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการแพทราบก่อนล่วงหน้า ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
สำหรับที่เขื่อนสิรินธรมีการวางทุ่นหรือติดป้ายเตือนห้ามเข้าไปในเขตหวงห้ามเพื่อป้องกันอันตรายจากน้ำไหลแรง นายท้ายเรือแพรายนี้กล่าวว่าปัจจุบันไม่เห็นทุ่นหรือป้ายเตือน จึงไม่ทราบว่าตรงจุดที่นำแพไปจอดอยู่ในเขตหวงห้ามด้วยหรือไม่ พร้อมต้องการให้เขื่อนไฟฟ้าสิรินธรมีการปรับปรุงระบบการแจ้งเตือน
รวมทั้งติดตั้งหวอใช้แจ้งเวลาเปิดประตูน้ำปั่นกระแสไฟฟ้าเหมือนกับเขื่อนปากมูลที่อยู่ห่างลงไปตามลำน้ำไม่กี่กิโลเมตร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก
ด้านนายสังวาล พรมสำลี หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบปิดประตูระบายน้ำทันที และต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ประกอบการเข้ามาในพื้นที่แนวกั้นที่ห้ามไว้หรือไม่
หลังเกิดเหตุ กรมเจ้าท่าและอำเภอสิรินธรได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ รวมทั้งนายสนอง มะลัยขวัญ นายอำเภอสิรินธร ได้นัดผู้ประกอบการให้มาร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกในวันพุธที่ 8 ก.ค.นี้ แต่ไม่บอกถึงสาเหตุทำไมมีการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนโดยไม่แจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้าก่อน