พิจิตร – ครูพิจิตรรวมตัวชูป้ายขอ ส.ส.ช่วย..ชี้สหกรณ์ครูฯแจ้งเปลี่ยนบริษัทประกันฯค้ำเงินกู้ จนลูกหนี้โดนขูดเบี้ยเพิ่มเกือบ 2 เท่าตัว
วันนี้(4 ก.ค.)นายเปรมศักดิ์ คงเมือง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/174 ถนนศรีมาลา อ.เมืองพิจิตร พร้อมตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร จาก 12 อำเภอ รวมประมาณ 60 คน ได้พากันชูดป้าย-ยื่นหนังสือร้องทุกข์กับนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ต.คลองคะเชนทร์ ก่อนเดินทางไปยื่นหนังสือให้กับนายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พปชร.พิจิตร เขต 1 ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตั้งอยู่ ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร
สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรกลุ่มนี้ ได้แจ้งเหตุผลที่ต้องมาร้องทุกข์ว่า ครูพิจิตรที่เป็นสมาชิกและได้กู้ยืมเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ รวมประมาณ 2,400 คนเศษ ได้รับความเดือดร้อนเรื่องการทำประกันชีวิตเป็นหลักประกันกู้เงิน ซึ่งครั้งแรกมติของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรให้จ่ายเบี้ยประกัน 26,775 บาทต่อคนต่อ 3 ปี ทุนประกัน 1.5 ล้านบาท ซึ่งสมาชิกฯ รับได้และยินยอมจ่าย ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดความคุ้มครอง
แต่ต่อมาผู้บริหารสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร กลับทำหนังสือแจ้งขอเปลี่ยนแปลงบริษัทที่จะมาเป็นผู้รับทำประกันและให้จ่ายเบี้ยประกัน 69,750 บาท ซึ่งต้องจ่ายแพงกว่าเดิมถึง 42,975 บาท จึงทำให้บรรดาครูผู้ที่เป็นลูกหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ต่างได้รับความเดือดร้อนและสงสัยว่าการบริหารงานดังกล่าวไม่โปร่งใส ทำหนังสือคัดค้าน ร้องทุกข์ ร้องเรียน ไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงได้รวมตัวกันมาชูป้ายร้องทุกข์ผ่าน ส.ส.เผื่อหวังว่าจะได้รับการแก้ไขเยียวยาต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงกับนายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร แต่พบกับ นายอุกฤษฏ์ จันทฤก ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร ที่ให้สัมภาษณ์เพียงว่า สหกรณ์ฯได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ชี้แจงถึงเรื่องการจัดทำประกันสินเชื่อตามโครงการกู้เงินโดยประกันชีวิตเป็นหลักประกัน พร้อมแจ้งหลักการและเหตุผลอย่างครบถ้วน ซึ่งก็มีสมาชิกส่วนใหญ่เข้าใจเหตุผลแล้ว อย่างไรก็ตามนายมานิตย์ พรหมอยู่ ประธานสหกรณ์ฯ จะขอชี้แจงกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค.นี้ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้