สุรินทร์ - ชนสยอง กระบะพุ่งชนประสานงาเก๋งหงายท้องพังยับ ไฟลุกคลอกคนขับเสียชีวิตติดอยู่ในรถ 1 ศพ สาหัสอีก 2 ราย ชาวบ้านเผยเป็นจุดอันตรายเกิดอุบัติเหตุบ่อย ทั้งเป็นทางแยกเข้าหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างและเป็นช่วงทางตรงมักขับรถด้วยความเร็ว
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะสี่ประตูชนกับรถเก๋ง ทำให้มีผู้ติดอยู่ในรถทั้งสองคัน และรถกีดขวางเส้นทางการจราจร บนถนนเส้นทางระหว่างตำบลบ้านตระแสง-ตำบลสวาย ใกล้ อบต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งได้ประสานรถพยาบาลฉุกเฉิน 1669 อาสากู้ภัยสุรินทร์ อาสากู้ชีพ ตำบลตระแสง ตำบลสวาย อ.เมืองสุรินทร์ เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.ท.กลวัชร บุญส่งแก้ว ร้อยเวรประจำวัน สภ.เมืองสุรินทร์
ในที่เกิดเหตุบริเวณใกล้ทางแยกเลี้ยวเข้าหมู่บ้านโคกเพชร ต.ตระแสง อ.เมืองสุรินทร์ ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ แชมป์ ทะเบียน บบ 5820 สุรินทร์ ชนประสานงาอย่างรุนแรงกับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฌส 9795 กรุงเทพมหานคร ทำให้รถเก๋งพังยับเยิน อยู่ในสภาพพลิกหงายท้องและเกิดไฟลุกไหม้คลอกคนขับเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ ทราบชื่อคือ นายวิทยา เรืองยิ่ง อายุ 35 ปี ชาวบ้านโคกเพชร ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ส่วนรถกระบะสภาพด้านหน้าพังยับเยินเช่นกันและคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส คาดว่าเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว ทราบชื่อคนขับรถกระบะคือ นายจิรเดช มวลทอง อายุ 62 ปี คนนั่งข้างโดยสารมาด้วยคือ นางสำเร็จ มวลทอง อายุ 57 ปี และ นางสาวอรพินท์ มวลทอง อายุ 24 ปี ซึ่งอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ให้การช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากตัวรถและนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์
ญาติของผู้เสียชีวิตบอกว่า ผู้เสียชีวิตขับรถเก๋งเดินทางกลับจากติดต่องานภายในอำเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อจะกลับบ้านในหมู่บ้านโคกเพชร ซึ่งกำลังจะเลี้ยวรถเข้าหมู่บ้านและมีรถกระบะวิ่งมาจากฝั่งตำบลสวายด้วยความเร็วพุ่งชนประสานงากันอย่างรุนแรง ทำให้รถเก๋งตีลังกาหงายท้อง ญาติของตนติดอยู่ในรถเก๋งและเกิดไฟไหม้ทำให้เสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่กรุงเทพฯ พอปิดช่วงการระบาดโควิด-19 จึงเดินทางกลับมาอยู่บ้าน ที่บ้านโคกเพชร ต.ตระแสง และดูแลพ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งวันนี้หลังกลับจากติดต่องานกำลังขับรถกลับบ้านแต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน
ขณะที่ ร.ต.ท.กลวัชร บุญส่งแก้ว ร้อยเวรปะจำวัน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เก็บรวบรวมหลักฐานบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ เพื่อจะได้เรียกผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งคนขับรถกระบะและผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำหลังมีอาการดีขึ้น เพื่อหาสาเหตุและผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านโคกเพชร ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าถนนจุดที่เกิดเหตุ นี้ได้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อยากให้ทางหลวงชนบท หรือ อบจ.สุรินทร์ ที่เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบได้มาดำเนินการติดตั้งสัญญาณไฟฟ้าส่องสว่าง หรือสัญญาณการแจ้งเตือน ถนนเลี้ยวเข้าหมู่บ้านหรือเป็นพื้นที่ชุมชน คนขับขี่ต้องลดความเร็ว เพราะเป็นช่วงเส้นทางตรงคนขับรถมักขับเร็วด้วยความคึกคะนอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก