ชัยนาท - ธรรมาภิบาลชัยนาท และ ผู้ใหญ่บ้าน ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา ลงพื้นที่ตรวจสอบการถมดินรุกแม่น้ำท่าจีน หลังมีประชาชนร้องเรียนผ่านสื่อ หลังตรวจสอบพบเป็นการเข้าใจผิด เพราะที่ดินมีเอกสารสิทธิอย่างถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่า มีการถมดินรุกล้ำลงไปในแม่น้ำท่าจีน (สายเก่า) ในพื้นที่ ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมกับ นายจุมพฎ เจตน์จันทร์ กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท และ นายสายัญ ดวงประทีป ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.สามง่ามท่าโบสถ์ โดยพบว่า บริเวณริมถนนเลียบแม่น้ำท่าจีน (สายเก่า) ม.5 ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา มีเครื่องจักรกล กำลังขุดดิน บนที่ดินประมาณ 20 ไร่ และมีการก่อสร้างทำคันดินเลียบลำแม่น้ำท่าจีนสายเก่า เป็นทางยาวกว่า 200 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามีการปักหมุดเขตที่ดินล้อมรอบพื้นที่ และมีการขุดดินในพื้นที่ขึ้นไปทำคันดินเลียบแม่น้ำ โดยคันดินดังกล่าวยังอยู่ในเขตหลักหมุด ไม่มีการรุกล้ำลงไปในแม่น้ำ ตามที่มีการร้องเรียน
จากการสอบถาม น.ส.กิติวรรณ ดอกกุหลาบ อายุ 62 ปี เจ้าของที่ดิน ให้ข้อมูลว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของครอบครัวที่อาศัยทำกินมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า มีเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ครอบครอง เมื่อที่ดินส่งต่อมาถึงรุ่นตน จึงได้มีการขอออกโฉนดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมา เกิดน้ำท่วม จึงปล่อยที่ดินทิ้งร้าง แต่เพราะที่ดินอยู่ติดกับลำน้ำเก่า จึงมีคนเข้าใจผิด คิดว่าที่ดินของตนเป็นที่สาธารณะ เมื่อตนเข้าไปปรับปรุงพื้นที่จึงมักจะมีคนร้องเรียนไปยังหน่วยงานราชการ ว่าตนนำที่ดินสาธารณะมาออกโฉนด ทำให้หน่วยราชการต้องลงมาตรวจสอบที่ดินของตนอยู่บ่อยครั้ง ขอยืนยันว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินของตนที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง ส่วนเรื่องการทำคันดินในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นแนวเขตและป้องกันน้ำท่วมในอนาคต โดยก่อนที่จะสร้างคันดิน ได้มีการประสานไปยังสำนักงานที่ดินอำเภอหันคา ให้มาตรวจสอบ ปักหมุดแนวเขตที่ดินเรียบร้อยแล้ว โดยได้ขุดดินในที่ดินของตนขึ้นมาทำคันดินตามแนวเขต ไม่ได้รุกล้ำลงไปในลำแม่น้ำอย่างแน่นอน
ด้าน นายสายัญ ดวงประทีป ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.สามง่ามท่าโบสถ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่ดินดังกล่าว พบว่า เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ และการขุดดินขึ้นมาถมเพื่อทำคันดินก็ยังอยู่ในเขตที่ดินของเจ้าของที่ ยังไม่มีการรุกล้ำลงไปในแม่น้ำท่าจีน (สายเก่า) ตามที่มีผู้ร้องเรียนไปยังสื่อมวลชนแต่อย่างใด