บุรีรัมย์ - ป้าสุดแสบลูกค้าขาประจำทำทีเข้าเลือกซื้อสิ้นค้าในร้านค้าปลีก-ส่ง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ฉวยโอกาสแอบฉกเงินและสินค้าในร้านเดือนเดียวถึง 11 ครั้ง เจ้าของร้านนำหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความ วอน ตร.เร่งติดตามตัวดำเนินคดี
วันนี้ (24 มิ.ย.) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านขายปลีกและส่ง เป็นภาพหญิงรูปร่างอ้วนเข้าไปทำทีเลือกซื้อของภายในร้าน ก่อนจะอาศัยช่วงที่เจ้าของร้านง่วนอยู่กับการขายของให้ลูกค้า แอบขโมยเงินสด และขโมยของภายในร้านหลายครั้ง และผู้โพสต์ยังได้นำเอาไทม์ไลน์การก่อเหตุมาลงอย่างชัดเจน
โดยระบุว่าถูกป้าคนเดิมเข้าไปขโมยสินค้าและเงินสด ตั้งแต่วันที่ 3 เดือน พ.ค. ไปจนถึงวันที่ 6 เดือน มิ.ย. รวม 11 ครั้ง พร้อมระบุปิดท้ายไม่ต้องการค่าเสียหายแต่อย่างใด แต่ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้โพสต์ ทราบว่าร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าปลีกส่งในตลาดสดอำเภอละหานทราย จ.บุรีรัมย์
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านค้าดังกล่าว สอบถาม นายวรพงศ์ ชัยหงสา อายุ 28 ปี หลานเจ้าของร้านเจ๊แมวลูกชิ้นสด ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกและส่งสินค้าหลายชนิด ตั้งอยู่ในตลาดสดละหานทราย เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกไม่มีใครทราบว่าของในร้านถูกขโมย กระทั่งเริ่มตรวจเช็กของในร้านจึงพบว่ามีสินค้าหลายรายการหายไป จึงได้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในร้าน จึงพบว่ามีลูกค้าเป็นผู้หญิงรูปร่างท้วม ซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำ มาซื้อของที่ร้านทุกวันในตอนเช้า จะเข้ามาซื้อไก่และของแห้งเนื่องจากลูกค้าคนนี้มีอาชีพเปิดร้านขายไก่ย่างในตำบลใกล้เคียง
โดยก่อนจะมีการเช็กกล้องวงจรปิดสืบเนื่องจากหลานชายได้มาช่วยขายของที่ร้านแล้วเห็นป้าที่อยู่ในกล้อง ได้ขโมยหมูปิ้งนมสด ซึ่งเป็นหมูปิ้งสําเร็จรูปแบบแพก ขโมยใส่ในเอี๊ยมและนำไปไว้ที่รถจักรยานยนต์ จึงได้ตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดย้อนหลัง พบว่าป้าคนดังกล่าวซึ่งทำทีเข้ามาเลือกซื้อของในร้านจะแอบขโมยของในร้านหลายครั้ง เช่น ผงชูรส รสดี น้ำตาลทราย ทั้งยังขโมยเงินสดในกระป๋องใส่เงินของทางร้านอีกด้วย
เบื้องต้นทางร้านพยายามไปถามป้าคนดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ยอมรับ จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีต่อป้าคนดังกล่าว พร้อมทั้งได้ฝากเตือนร้านขายของทั่วไปให้ระมัดระวังด้วยเพราะขนาดคนที่เป็นลูกค้าขาประจำคุ้นเคยกันก็ยังขโมยกันได้ลงคอ ส่วนที่ร้านจะหาคนมาช่วยดูและระมัดระวังให้มากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการเรียกมาสอบปากคำ ด้านผู้เสียหายก็ประสานให้รวบรวมมูลค่าทรัพย์ที่เสียหายและเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง