ราชบุรี - ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ 2 จังหวัด ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ราชบุรี เรียกร้องให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียที่ไหลลงสู่คลองสาธารณะ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และ ลำคลองสาขา จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี จนสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชน และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างหนัก
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายอาคม จันทรางกุล กรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายปัญญา โตกทอง รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทานรวมใจพัฒนาเมืองสามน้ำแพรกหนามแดง นายคัมภีร์ ทองเปลว ตัวแทนเกษตรกรผู้เพาะปลูกมะพร้าว จ.สมุทรสงคราม และตัวแทนชาวบ้านที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใน จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี กว่า 50 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ราชบุรี เพื่อยื่นหนังสือถึงนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เรียกร้องให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียที่ไหลลงสู่คลองสาธารณะ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี สู่ลำคลองสาขา จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี จนสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างหนัก โดยทาง ผวจ.ราชบุรี ได้มอบหมายให้ น.ส.ประภารัตน์ นาคผจญ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายปัญญา โตกทอง รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทานรวมใจพัฒนาเมืองสามน้ำแพรกหนามแดง กล่าวว่า เนื่องจาก จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ต้นน้ำที่มีผู้ประกอบการจากหลายอาชีพและชุมชนเมือง รวมถึงอุตสาหกรรม การเพาะเลี้ยงสัตว์สุกรทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก และในช่วงเข้าสู่ฤดูฝนของทุกปี น้ำฝนจะพัดเอาของเสียต่างๆ
รวมทั้งน้ำมูลสุกรไหลลงลำคลองห้วยโรง คลองวันดาว และคลองปากท่อ ตลอดจนคลองอื่นๆ จึงทำให้น้ำในลำคลองต่างๆ เกิดการเน่าเสียไหลลงมารวมกันที่คลองวัดประดู่ เขต อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และยังไหลออกลำน้ำสาขาต่างๆ ที่แยกออกจากคลองวัดประดู่ จึงทำให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองและผู้ใช้น้ำ ตลอดจนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิดในพื้นที่ ต.แพรกหนามแดง และพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ถึงขั้นก่อให้เกิดปัญหาสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปู ปลา ทำนา ทำสวน ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้น้ำเพื่อทำการประกอบอาชีพได้
นายปัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ น้ำเน่าเสียยังไหลออกสู่แม่น้ำ ไปถึงทะเล ทำให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้าน ผู้ประกอบอาชีพกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง ผู้เพาะเลี้ยงชาวประมงพื้นบ้าน ผู้เลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่ หอยนางรม หอยกระปุก รวมถึงทรัพยากร ทางทะเลเสียหายทั้งสมุทรสงคราม และ เพชรบุรี รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี หลายพันครัวเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำที่เสียหายสะสมเพิ่มขึ้นในทุกปี เป็นการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรงทั้งระบบ จนต้องเร่งรีบฟื้นฟู ดังนั้นเครือข่ายผู้ใช้น้ำรวมถึงผู้เดือดร้อนจึงอยากให้ผู้ว่าฯ ราชบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง เร่งเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียทั้งหมดตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้
โดยเสนอให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาดังนี้ 1.ตรวจสอบฟาร์มสุกรไม่ให้ปล่อยน้ำมูลสุกรเน่าเสีย 2.ทำการบำบัดน้ำเน่าเสียในลำคลองต่างๆ รวมทั้งคลองวัดประดู่ด้วยจุลินทรีย์ 3.ให้ติดตั้งเครื่องตีน้ำเติมอากาศเพื่อการบำบัดน้ำเน่าเสียที่เกิดขึ้นทุกลำคลอง และ 4.ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร
ด้าน นายคัมภีร์ ทองเปลว ตัวแทนเกษตรกรผู้เพาะปลูกมะพร้าว จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นสะสมมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา ผู้ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอย่างมากคือ ชาวบ้าน ชาวสวน และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี เนื่องจากอยู่ปลายน้ำ ที่ผ่านมา ทาง จ.ราชบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี ได้มีการลงนาม MOU 3 จังหวัด ในแก้ไขปัญหาดังกล่าว
แต่จากการตรวจสอบแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นต้นเหตุเกิดจากน้ำที่พัดมาจากคลองห้วยโรง คลองวันดาว และคลองปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่แล้ว จึงอยากให้ทาง จ.ราชบุรี เร่งดำเนินแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะชาวบ้าน ชาวสวน และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี จะอยู่กันไม่ได้แล้ว