xs
xsm
sm
md
lg

“น้องมายด์” รับฆ่าแฟนหนุ่มจากเหตุหึงหวง เตรียมนำตัวทำแผนรับสารภาพพรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น รับตัว “น้องมายด์” ผู้ต้องหาใช้มีดแทงแฟนหนุ่มตายแล้ว ล่าสุดผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว เผยลงมือฆ่าเพราะผู้ตายนอกใจมีคนอื่น เจ้าตัวมีอาการเครียดบ่นจะฆ่าตัวตาย โดยมีพ่อแม่มาคอยอยู่ใกล้ชิด


วันนี้ (11 มิ.ย. 63) เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ตำรวจฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นำตัวนายธันพิชา หรือมายด์ รอดหนองเข็ง อายุ 28 ปี สาวประเภทสอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เดินทางมาถึง สภ.เมืองขอนแก่นแล้ว หลังจากไปรับตัวมาจากกองบังคับการปราบปราม กลับมาสอบสวนดำเนินคดีที่ จ.ขอนแก่น

หลังที่ผู้ต้องหาถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามจับกุมตัวได้ที่ห้องพักย่านอนุสาวรีชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อเดินทางมาถึงตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าไปภายในห้องสอบสวนทันที โดยมีพ่อแแม่ผู้ต้องหาเดินทางมาที่ สภ.เมืองจอนแก่นด้วย โดยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้มาเก็บ DNA บนร่างกายของนายธันพิชา ก่อนที่พนักงานสอบสวนและผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จะร่วมสอบปากคำ โดยมีบิดาและมารดาของนายธันพิชามานั่งเคียงข้างตลอด เนื่องจากนายธันพิชาอยู่ในอาการเครียดและร้องไห้

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น
ต่อมา พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า แม้ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม ท้ายที่สุดผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริงเนื่องจากโกรธที่ผู้ตายคบหาคนอื่น ทั้งได้โทรศัพท์พูดคุยกับแฟนใหม่ต่อหน้าตนเองบ่อยครั้ง และที่ผ่านมาก็เกิดปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้งจนถึงขั้นได้ขอเลิกราหลายครั้ง จึงเป็นสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าไม่คิดว่าจะถึงขั้นทำให้ผู้ตายเสียชีวิต ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาก็บอกว่ารู้สึกเสียใจและร้องไห้ตลอด เพราะยังรักผู้ตายอยู่ ส่วนที่ต้องหลบหนีเพราะทำอะไรไม่ถูก

ด้านนายธันพิชา รอดหนองเข็ง หรือน้องมายด์ ผู้ต้องหาเล่าว่า หลังเกิดเหตุได้หลบหนีขึ้นรถโดยสารไปยังจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะมาที่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งเงินที่ติดตัวใกล้จะหมดจึงได้นำทองคำหนัก 50 สตางค์ไปขายได้เงินมา 10,000 บาท เพื่อใช้สอยและค่าห้องเช่า โดยได้ไปหาห้องเช่าย่านอนุสาวรีชัยสมรภูมิ แต่ตนเองไม่มีบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย ทำให้เจ้าของห้องเช่าบอกว่าจะไม่ให้พักอยู่นานเพราะเหตุเป็นบุคคลที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน โดยตนเองไม่ได้ติดต่อเพื่อนหรือแม้แต่พ่อแม่ ยอมรับว่าเครียดที่ลงมือก่อเหตุฆ่าคนรักตาย


สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุในพรุ่งนี้ ส่วนเวลาจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น